EV คือ อนาคตที่แน่นอนของทั่วโลก ไทยอาจสวนกระแสต่อได้อีกไม่นาน

Global EV Outlook 2019 คาดการณ์อนาคต EV จนถึงปี 2030

ปี 2018 ทั่วโลกมียานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวีใช้อยู่ทั่วโลกมากกว่า 5.1 ล้านคัน ตลาดอีวีที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ในประเทศจีน ตามมาด้วย ยุโรปและประเทศอเมริกา

ถ้าคิดตามส่วนแบ่งตลาด นอร์เวย์เป็นประเทศที่มีการใช้อีวีมีมากที่สุดในโลก ในปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดเป็นของรถอีวีมากถึง 46%

ถ้านับเฉพาะรถสองล้อและสามล้อ นับถึงสิ้นปี 2018 มีรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าวิ่งอยู่บนถนนทั่วโลกแล้วมากว่า 300 ล้านคัน

ผู้ออกนโยบาย….ผู้ออกนโนบาย…..ผู้ออกนโนบาย มีบทบาทอย่างมากที่จะชี้นำการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศของตัวเอง ใครสนใจอยากให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น มีมลพิษทางอากาศน้อยลง ก็จะสนใจอีวีอย่างจริงจัง

ประเทศที่มีนโยบายสนับสนุนอย่างจริงจัง คือ ประเทศที่มีการใช้อีวีมากกว่า

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้ต้นทุนการผลิตรถพลังงานสะอาดมีราคาลดต่ำลง

ภาคเอกชนของประเทศต่างๆ พร้อมที่จะตอบสนองนโยบายการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ

ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกทุกค่าย ประกาศที่จะออกรถอีวีจำนวนมากในอนาคต บางบริษัทประกาศแล้วว่ากำลังจะเลิกผลิตรถใช้น้ำมันที่ปล่อยมลพิษแบบเก่า

EV30@30 คาดว่า ภายในปี 2030 ยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะขายได้ปีละ 43 ล้านคัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 30% และจะมีรถอีวีวิ่งบนถนนทั่วโลกมากกว่า 250 ล้านคัน ทั้งนี้ยังไม่ได้รวมรถสองล้อหรือสามล้อ รถอีวีจะทำให้มีการใช้น้ำมันลดน้อยลง 4.3 ล้านบาเรลต่อวัน

ประเทศจีนจะเป็นผู้นำอีวีโลก ภายในปี 2030 การขายรถอีวีในจีนแต่ละปีจะมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 57% ตามมาด้วย ยุโรป 26% ญี่ปุ่น 21%

แต่ละสำนักมีการวิเคราะห์และคาดการณ์อนาคตอีวีไม่ตรงกัน แต่ทุกคนรู้แน่ชัดว่าอนาคตเป็นของยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน

ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกทุกค่ายเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงของโลกเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว และยังมีสตาร์ทอัพจำนวนมากที่จะมาร่วมแจมผลิตรถอีวีแข่งด้วย

มันไม่ใช่แค่เปลี่ยนเป็นยายนต์ไฟฟ้าเท่านั้น มันจะไปถึงขั้นยานยนต์ไร้คนขับด้วย

มีบางสำนักที่มองอนาคตแบบสุดโต่งพลิกโฉมรุนแรงว่า ภายในปี 2025 หรืออีก 5 ปีจากวันนี้ รถทุกคันที่ผลิตใหม่บนโลกจะมีแต่อีวีเท่านั้น และจะได้เห็นการล่มสลายของอุตสาหกรรมน้ำมัน

หันมาประเทศไทยที่บอกว่าเราเป็น ไทยแลนด์ 4.0!

มาตรการณ์ต่างๆที่ออกมาดูเหมือนสนับสนุนรถไฟฟ้า แต่ยานยนต์ไฟฟ้าแบบไทยๆที่กำลังสนับสนุนกันเกือบทั้งหมด เติมไฟฟ้าไม่ได้ ไม่มีแม้กระทั่งปลั๊กให้เสียบไฟ

ทั่วโลกไม่มีใครจัดรถไฮบริดที่มีมอร์เตอร์ปั่นไฟจากน้ำมันอยู่ในหมวดรถอีวี

แต่ประเทศไทยเรียกรถไฮบริดที่เติมน้ำมันได้เท่านั้น เติมไฟฟ้าไม่ได้ จัดให้มันอยู่ในหมวดยานยนต์ไฟฟ้า

คนในแวดวงอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยที่ผลิตรถหรือชิ้นส่วน ICE หรือรถใช้น้ำมัน ไม่ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนรถอีวีของแท้ เพราะต้องการให้โรงงานรถยนต์ที่มีอยู่มากมายในประเทศไทยขายรถแบบเก่าให้ได้มากที่สุด อยากให้คุ้มค่าการลงทุน

ในประเทศที่เขามีภาครัฐที่จริงใจ มีการสนับสนุนทางด้านภาษีหลายรูปแบบ

สนับสนุนผู้ซื้อได้ส่วนลดภาษีเป็นแรงจูงใจให้ซื้อมากขึ้น

สนับสนุนโรงงานผลิตรถยนต์ให้ได้ส่วนลดภาษีในฐานะผู้ผลิต

ถ้ารัฐบาลไทยจริงใจเรื่องรถพลังงานสะอาดจริงๆ เราคงได้ใช้รถเทสล่า โมเดล 3 ในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาเดียวกับที่ขายอยู่ในอเมริกา

ถ้าไม่หันหลังให้กับสิ่งที่ถูกต้อง ไม่หันหลังให้กับอนาคต ประเทศไทยคงต้องดีกว่านี้แน่!!!

.

https://www.iea.org/publications/reports/globalevoutlook2019/?fbclid=IwAR30pDthJWl2x5ZTjM7Fcgge76lwy6QIWqMJsFa2-LKeImj-VoYONprYKHI

Leave a Reply