จดหมายจาก อีลอน มัสก์ เมื่อวันที่ 7-08-2018 ที่ส่งอีเมลถึงพนักงานทุกคน อธิบายถึงเหตุผลของการเปลี่ยน Tesla จากบริษัทมหาชนเป็นบริษัทเอกชน
……………………………..
วันนี้ผมได้ประกาศว่ากำลังพิจารณาเรื่องเปลี่ยน Tesla เป็นบริษัทเอกชน ในราคาหุ้น 420 ดอลลาร์ต่อหุ้น ผมต้องการแจ้งให้คุณทราบเหตุผลของเรื่องนี้ และทำไมถึงคิดว่านี่เป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับวันข้างหน้า
ประการแรก การตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังไม่เกิดขึ้น แต่เหตุผลทั้งหมดเพื่อเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีที่สุดของเทสล่า
ในฐานะบริษัทมหาชน มันมีประเด็นเรื่องความผันผวนของราคาหุ้น และสามารถทำให้เกิดความไขว้เขวสำหรับทุกคนที่ทำงานอยู่ในเทสล่า สำหรับทุกคนที่เป็นผู้ถือหุ้น
การเป็นบริษัทมหาชน ยังต้องเจอกับการแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส มีเรื่องเกี่ยวกับรายได้ ซึ่งสร้างความกดดันอย่างมากต่อการตัดสินใจที่อาจถูกต้องสำหรับในไตรมาสหนึ่ง แต่อาจไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้องในระยะยาว
ประการสุดท้าย ยังมีเรื่องของชอตสต๊อคในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้น การเป็นบริษัทมหาชนหมายถึงการมีคนจำนวนมากที่มีแรงจูงใจในการโจมตีบริษัท
โดยพื้นฐานแล้ว ผมเชื่อว่าเราอยู่ในช่วงจังหวะที่ดีที่สุด เมื่อทุกคนโฟกัสอยู่กับการดำเนินการ เมื่อเรายังคงมุ่งมั่นอยู่กับมิสชั่นสำหรับภารกิจระยะยาว มันไม่มีแรงจูงใจอะไรที่จะทำให้ผู้คนคนพยายามทำร้ายเราในสิ่งที่เรากำลังพยายามทำ
มันเป็นเรื่องจริงที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทอย่าง Tesla ซึ่งมีเป้าหมายระยะยาว มีภารกิจที่มองไปข้างหน้า
SpaceX เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ ของการดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากกว่าอย่างยาวไกล และความจริงที่ทำให้เป็นเช่นนั้นได้ มีเหตุผลใหญ่มาจากการเป็นบริษัทเอกชน
ที่เป็นอย่างนี้ ไม่ได้บอกว่า มันสมเหตุผลที่จะให้ Tesla เป็นบริษัทเอกชนในระยะยาว ในอนาคต เมื่อเทสล่าถึงช่วงจังหวะที่ช้าลง สามารถคาดการณ์การเติบโตของอนาคตได้มากขึ้น มันก็คงสมเหตุผลที่จะกลับไปเป็นบริษัทมหาชน
นี่คือสิ่งที่ผมวาดภาพเอาไว้เมื่อเป็นบริษัทเอกชน นั่นหมายถึงสำหรับผู้ถือหุ้นทุกคน ซึ่งรวมถึงพนักงานทุกคนด้วย
ประการแรก ผมอยากวางโครงสร้างที่มีทางเลือกสำหรับผู้ถือหุ้นทุกคน จะอยู่เป็นผู้ลงทุนต่อไปในฐานะบริษัทเอกชนก็ได้ หรือยอมให้มีการซื้อหุ้นของตัวเองออกไปในราคา 420 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งหมายถึงเงินพรีเมี่ยม 20% ตามราคาหุ้นช่วงไตรมาส 2 ซึ่งได้ขึ้นไปแล้ว 16% ผมหวังไว้ว่าผู้ถือหุ้นทุกรายจะยังคงอยู่กับบริษัท แต่ถ้าอยากถูกซื้อออกไป ก็จะได้ผลต่างเป็นพรีเมี่ยมที่ดีมาก
ประการที่สอง ผมมีความตั้งใจให้พนักงานเทสล่าทั้งหมดยังคงอยู่เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท เหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในสเปซเอ็กซ์ ถ้าเรากลายเป็นบริษัทเอกชน พนักงานยังคงมีบางช่วงเวลาที่สามารถขายหุ้นได้ จะทำตอนนั้นก็ได้ วิธีการนี้ทำให้คุณยังคงสามารถได้รับแบ่งปันการเติบโตในมูลค่าของบริษัทซึ่งเป็นงานที่ได้ช่วยสร้างกันมาอย่างยากลำบาก
ประการที่สาม ผมไม่มีความตั้งใจที่จะรวม SpaceX กับ Tesla ทั้งสองบริษัทยังคงมีโครงสร้างการกำกับดูแลและความเป็นเจ้าของที่แยกส่วนกัน อย่างไรก็ตาม โครงสร้างที่สามารถจินตนาการได้สำหรับ Tesla จะเหมือนกันหลายทางกับโครงสร้างของ SpaceX โดยคร่าวๆแล้ว ผู้ถือหุ้นทั้งภายนอกและพนักงาน มีโอกาสที่จะขายหรือซื้อหุ้นทุกๆ 6 เดือน
ประการสุดท้าย สิ่งที่ทำนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการเพิ่มพูนการควบคุมสำหรับตัวผมเอง ในปัจจุบันผมถือหุ้นประมาณ 20% และไม่ได้วาดภาพว่าจะมีอะไรแตกต่างจากเดิมเมื่อดีลนี้เสร็จสิ้น
โดยพื้นฐานแล้ว ผมพยายามที่จะหาทางบรรลุผลเพื่อการดำเนินงานที่ดีที่สุดสำหรับเทศล่า มีอิสระจากเรื่องไขว้เขวและความคิดระยะสั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ และหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยสำหรับผู้ลงทุนของเรา ซึ่งรวมถึงพนักงานทั้งหมดของเราด้วย
ข้อเสนอที่จะเปลี่ยนเป็นบริษัทเอกชน อาจได้บทสรุปสุดท้ายผ่านการโหวตจากผู้ถือหุ้นของเรา หากกระบวนการสิ้นสุดและเป็นไปในทางที่ผมคาดหวังว่าจะเป็น ในที่สุดบริษัทเอกชนเทสล่าคงสร้างโอกาสมหาศาลสำหรับทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นหนทางไหน อนาคตก็ดูสดใสและเราจะคงต่อสู้เพื่อบรรลุภารกิจของเราให้ได้
https://www.tesla.com/blog/taking-tesla-private?redirect=no
.