เทคโนโลยีไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปเหมือนกราฟแนวนอนที่ค่อยๆไต่ขึ้นอย่างช้าๆ แต่ในความเป็นจริง เมื่อมันเข้าสู่จุด Tipping Point มันจะพลิกผันกระจายอย่างรวดเร็วเหมือนโรคระบาด เป็นผลกระทบครั้งใหญ่ จะได้เห็นมันเติบโตแบบกราฟแนวตั้ง
เหมือนการเติบโตของสตาร์ทอัพที่สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด
เมื่อมีผู้ชนะรายใหม่ ก็จะมีผู้แพ้รายเก่า หมายถึงผู้ที่ถูกดีสรัปให้ล่มสลายเพราะตามไม่ทันโลก!
กรณีศึกษาจากโกดักทำให้เห็นภาพชัดเจนที่สุด ทั้งๆที่เป็นบริษัทที่เป็นผู้คิดค้นกล้องดิจิตอลรายแรกของโลก แต่ด้วยความไม่มีวิสัยทัศน์และต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ทำให้บริษัทต้องล่มสลายเพราะกล้องดิจิตอลที่ตัวเองเป็นผู้คิดค้น
ในปี 1996 โกดักมีมูลค่าบริษัท 28,000 ล้านดอลลาร์ มีพนักงานบริษัท 140,000 คน พอถึงปี 2012 กลายเป็นบริษัทล้มละลาย
ปี 2012 ซึ่งเป็นปีที่โกดักขอเข้าคุ้มครองการล้มละลาย เป็นปีที่เฟซบุ๊กเข้าซื้อกิจการอินสตาแกรม
Instagram เป็นสตาร์ทอัพที่เพิ่งก่อตั้งในปี 2010 ผ่านไปเพียง 2 ปี บริษัทเล็กๆที่มีไอเดียดี มีพนักงานเพียง 13 คน แต่ขายบริษัทให้เฟซบุ๊กได้ในราคา 1,000 ล้านดอลลาร์
อินสตาแกรมเติบโตแบบก้าวกระโดด จากจุดเริ่มต้นที่เป็น 0 ผ่านมา 8 ปี นับถึงเดือนมิถุนายน 2018 มีผู้ใช้เป็นประจำทุกเดือน 1 พันล้านคน วันนี้มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นจากปี 2012 มากถึง 100 เท่า
ตอนที่เฟซบุ๊กเข้าซื้ออินสตาแกรมในปี 2012 เฟซบุ๊กยังไม่ได้นำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แต่ได้ทำ IPO เปิดขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ในปีนั้น
มูลค่า Facebook วันที่เริ่มเปิดขายหุ้น คือ 104,000 ล้านดอลลาร์ ถือว่าเป็นบริษัทมหาชนที่เริ่มเปิดขายใหม่ที่มีมูลค่ามากที่สุดในยุคนั้น
ล่าสุดวันที่ 19-09-2018 Facebook มีมูลค่าตลาด 465,390 ล้านดอลลาร์
ฟซบุ๊กก็เคยเป็นสตาร์ทอัพเล็กๆไม่ต่างจากสตาร์ทอัพเกิดใหม่หลายแห่งในปัจจุบัน เป็นรูปแบบธุรกิจที่สอดคล้องกับยุคสมัย เติบโตเร็ว และเข้ามาป่วนธุรกิจโฆษณาทั่วโลก แย่งชิงเม็ดเงินโฆษณาของสื่อต่างๆจนทำให้สื่อเก่าหลายแห่งต้องล่มสลายไป
ในอนาคตอันใกล้ ยังมีสินค้าและธุรกิจรูปแบบเก่าที่เปลี่ยนแปลงไม่ทันยุคสมัย จะล่มสลายให้เห็นอีกมาก….
https://en.wikipedia.org/wiki/Instagram
https://en.wikipedia.org/wiki/Facebook
.