เด็กหญิงในชั้นอนุบาลคนหนึ่งถูกครูทำโทษให้นั่งอยู่คนเดียวในห้องเรียนหลังจากเธอทำร้ายเพื่อน คุณครูเฉิน ซู ได้ส่งข้อมูลเรื่องนี้เข้าไปใน WeChat ซึ่งเป็นห้องแชทระหว่างครูกับผู้ปกครอง
ลี่ เคอฉีไนหยาง คุณแม่ของเด็กที่โดนทำโทษโกรธมาก และเขียนลงในวีแชทบอกให้ครูเฉิน ขอโทษลูกเธอต่อหน้าครูทุกคนและเพื่อนร่วมชั้นเรียน แถมยังขู่เพิ่มเติมว่า… ถ้าครูเฉินไม่ยอมขอโทษ เธอจะเรียกให้ครูเฉินไปอธิบายต่อผู้บังคับบัญชาของเธอเป็นการส่วนตัว เพื่อบอกว่าทำไมเธอถึงปฏิบัติตัวแย่มากต่อลูกสาวของท่านเลขาธิการหยาง
ห้องแชทรูมนี้มีสำหรับ ครูและผู้ปกครองในโรงเรียนอนุบาลแอปเปิลทองในเมืองเฉิงตู
ลี่ เคอฉีไนหยาง ยังส่งข้อความเพิ่มเติมในวีแชทอ้างว่า ทางโรงเรียนจะไล่ครูเฉิน ซู ออก
แต่โรงเรียนออกมาปฏิเสธข่าว และยืนยันว่าครูเฉิน ไม่มีความผิด
ภรรยาผู้เกรี้ยวกราดเรื่องลูกตัวเองและอยากไล่ครูออก กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ความซวยกลับไปตกกับสามี
ข่าวนี้เผยแพร่แบบไวรัลไปในโลกโซเชียลจีน ผู้คนคาดการณ์ไปกันใหญ่ว่า เลขาธิการหยาง ที่คุณแม่ผู้โกรธแค้นเอ่ยถึง คงหมายถึง หยาง ชู่เฟ่ย รองเลขาธิการคณะกรรมการเขตเทศบาลเมืองกว่างอัน มณฑลเสฉวน สมาชิกระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
เหล่าผู้ปกครองในโรงเรียนอนุบาลแอปเปิลทอง และผู้คนในโลกโซเชียล ตั้งข้อสังเกตว่า ข้าราชการที่มีหน้าที่คอยรับใช้ต่อสาธารณะ ทำไมถึงมีเงินมากมายขนาดส่งลูกไปเรียนโรงเรียนอนุบาลหรูแบบนี้ได้ ในแต่ละเดือนต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมากกว่า 10,000 หยวน หรือประมาณ 47,840 บาท
หลังจากกลายเป็นข่าวใหญ่ในโลกโซเชียล หยาง ชู่เฟ่ย ก็เลยถูกรัฐบาลจีนสอบสวน ซึ่งเขาอธิบายว่า ลี่ เคอฉีไนหยาง เป็นอดีตภรรยา และเขาไม่รู้เรื่องที่มีการโต้เถียงกันระหว่างอดีตภรรยากับครู
ในที่สุด หยาง ชู่เฟ่ย ได้ถูกตั้งข้อหารับสินบนและใช้ตำแหน่งหน้าที่การงานหาผลประโยชน์ให้ญาติและเพื่อน เขาถูกไล่ออกจากราชการ ถูกไล่ออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน มีความผิดจากการละเมิดวินัยอย่างร้ายแรง
รัฐบาลจีนรายงานผลการสอบสวนว่า หยาง ชู่เฟ่ย ไม่ได้รายงานเรื่องสถานะสมรส ไม่แจ้งทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์และหุ้นที่มีอยู่ตามที่กฎหมายกำหนด
มีการสอบสวนและกล่าวหา ลี่ เคอฉีไนหยาง และน้องสาวเรื่องมีหุ้นในหลายบริษัทซึ่งมีธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์จากตำแหน่งงานของ หยาง ชู่เฟ่ย ซึ่งวันนี้เป็นอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน และอดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการเขตเทศบาลเมืองกว่างอัน มณฑลเสฉวน
สื่อจีนบางสำนักรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้น่าสนใจว่า…
“การนิ่งเฉยไม่ใช่เรื่องดี มันหมายถึงความไม่รับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ผู้คนต้องร่วมมือกันรับผิดชอบต่อความตรงไปตรงมาและความซื่อสัตย์ต่อสาธารณะ มันเป็นสปีริตของข้อบังคับทางกฎหมายในยุคออนไลน์”
เห็นข่าวนี้แล้วอดกลับมาคิดถึงประเทศไทยไม่ได้จริงๆ เราก็มีข่าวเป็นกระแสไวรัลในสื่อโซเชียลเกี่ยวกับข้าราชการฉ้อฉลมากมาย แต่ข้าราชการที่มีหน้าที่คอยรับใช้ประชาชนในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ยังไม่ได้ยินข่าวว่ามีใครถูกลงโทษบ้างเลย……
http://www.chinadaily.com.cn/a/201805/19/WS5affbeeba3103f6866ee9678.html
https://www.sixthtone.com/news/1002274/secretary-yan-chinas-latest-symbol-of-lawless-privilege