โลกกำลังเปลี่ยนแบบพลิกโฉมครั้งใหญ่ ไม่มีอินเตอร์เน็ตเคเบิล ผ่าตัดบนถนน ควบคุมหุ่นยนต์โรงงานทำงานเรียลไทม์ ร้านค้าปลีกขายสินค้า กระจายอยู่ทุกที่

5G กำลังจะมีให้ใช้ในสมาร์ตโฟน และจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายๆอุตสาหกรรม

ในงาน Mobile World Congress ปีนี้ในบาซาโลน่า ประเด็นร้อนที่มีให้เห็นมากที่สุดคือ 5G ซึ่งคงได้เริ่มใช้กันในหลายประเทศภายในปี 2019 และแพร่หลายในวงกว้างในปี 2020

อุตสาหกรรมหลายอย่างจะเริ่มเปลี่ยนไป มีความเป็นอัจฉริยะเพิ่มขึ้นตามโครงสร้างพื้นฐานทางด้านการสื่อสารที่รวดเร็วขึ้น และรองรับอุปกรณ์ได้มากขึ้น

ในงาน MWC ผู้ให้บริการโครงข่ายสัญญาณมือถือของเกาหลีใต้ได้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของ 5G ที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์การทำงานของโรงงานในสายงานการผลิต การเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นทำให้กล้องของหุ่นยนต์และมือหุ่นยนต์ควบคุมสินค้าคงคลังได้อย่างรวดเร็ว ปราศจากปัญหาความล่าช้าในบางจุดที่กลายเป็นคอขวดที่ติดขัด

5G ของ Intel สามารถทำเกิดร้านขายของชำแบบป๊อปอัปมีอยู่ในทุกแห่งที่ต้องการ คนซื้อเพียงแค่มีสมาร์ตโฟนและรับคิวอาร์โคดจากร้านค้า ก็สามารถเข้าไปจับจ่ายซื้อของได้อย่างสบาย หมายความว่านับจากนี้ต่อไปจะมีร้านค้าอยู่ที่ไหนก็ได้ สแกนคิวอาร์โคดเข้าร้านแล้วไปหยิบของออกมาแล้วเดินจากไปได้เลย กล้องในร้านจะช่วยดูว่าใครซื้ออะไรไปบ้าง มันบันทึกและเก็บเงินผ่านมือถือทันที

การสื่อสารแบบ 5G ที่มีกำลังส่งรวดเร็วรองรับการทำงานจำนวนมากได้พร้อมๆกัน ทำให้ร้านค้าเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ต้องพึ่งพาสายเคเบิ้ลเพื่อสร้างการเชื่อมต่อ จะไปเปิดร้านอยู่ที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องมีคนดูแล เช่น ในงานคอนเสิร์ต กลางงานการประชุม ร้านค้าบนรถพ่วงกลางถนน ฯลฯ ร้านค้าแต่ละแห่งสามารถไปเปิดได้อย่างอิสระ ในขณะที่ยังมีการสื่อสารที่เชื่อมต่อได้ตามปกติ

ในงาน MWC มีการสาธิตให้เห็นการทำงานของ 5G ในวงการแพทย์ ซึ่งทำให้การช่วยเหลือชีวิตผู้คนมีประสิทธิภาพมากขึ้น โรงพยาบาลสามารถทำงานเชื่อมต่อกับรถพยาบาลฉุกเฉิน ทำให้แพทย์เฉพาะทางสามารถทำงานแบบรีโมทได้ ให้การสนับสนุนพยาบาลในรถพยาบาลด้วยวิดีโอลิงค์แบบสดเรียลไทม์ แม้แต่การผ่าตัดบนถนนก็สามารถทำได้

นอกเหนือจากสิ่งที่นำมาแสดงในงาน MWC แล้ว ความก้าวหน้าอื่นๆในหลายอุตสาหกรรมที่เกิดจาก 5G ที่จะตามมาอีกมากมาย เช่น

-อินเตอร์เน็ตแบบเคเบิลมีสายอาจไร้ความหมาย เพราะสัญญาณ 5G เร็วกว่า รองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า ต้นทุนต่ำกว่า ไม่ต้องพึ่งพาระบบเชื่อมต่อผ่านทางสาย มันอาจเหมือนกับระบบโทรศัพท์บ้านผ่านทางสายที่ทุกวันนี้มีใช้กันน้อยลงเรื่อยๆ

-การส่งสัญญาณทีวีในหลายรูปแบบมีต้นทุนสูง ต่อไปในอนาคตจะสู้สัญญาณทีวีที่ส่งผ่านระบบ 5G ไม่ได้ และมันอาจกลายเป็นแพลตฟอร์มหลักของทีวี

-หมอที่เชี่ยวชาญในการผ่าตัดที่อยู่ในประเทศหนึ่งหรือเมืองหนึ่งในโลก สามารถทำงานผ่าตัดคนไข้ที่อยู่ห่างไกลออกไปคนละซีกโลกได้ ไม่ต่างจากการผ่าตัดอยู่ตรงหน้า สัญญาณ 5G ที่มีความหน่วงที่ต่ำมากๆทำให้เป็นจริงได้

-รถยนต์ทุกคันที่เป็นระบบออโตโนมัสไร้คนขับ มีสัญญาณ 5G เชื่อมต่อกันระหว่างรถทุกคัน แล้วยังเชื่อมต่อกับระบบต่างๆที่อยู่บนถนน ในเมือง หรือบนโลก ทำให้การเดินทางมีความคล่องตัวรวดเร็วปลอดภัยมากขึ้น

-AR หรือ VR ที่ต้องใช้สัญญาณที่แรงเร็ว เมื่อเป็นระบบ 5G มันสามารถทำงานแบบโมบายไร้สายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

-IoT หรือ Internet of Things ที่อุปกรณ์สารพัดอย่างมีการเชื่อมต่อด้วยอินเตอร์เน็ต ระบบ 5G จะทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องจริง

-สมาร์ตโฟนที่รองรับ 5G ของแต่ละคน อาจกลายเป็นเร้าเตอร์ส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้อุปกรณ์ทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตัวที่ต้องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ยังมีอีกหลายอุตสาหกรรมที่จะมีการพลิกโฉมครั้งใหญ่เช่นกัน…

https://www.cnbc.com/2019/03/08/5g-is-coming-to-your-smartphone-but-the-big-change-is-for-industry.html

 

Leave a Reply