วันศุกร์ที่ 4-10-2019 ผู้นำฮ่องกง แครี่ หล่ำ ประกาศห้ามผู้ประท้วงใส่หน้ากาก โดยหวังว่าจะมีคนประท้วงน้อยลง หากไม่ใส่หน้ากากแล้ว จะชี้ตัวผู้ประท้วงหรือผู้ทำผิดกฎหมายได้ง่ายขึ้น
ภาพที่เห็นนี้เป็นผู้ก่อจลาจลในฮ่องกงวันเสาร์ที่ 5-10-2019 ผู้ประท้วงใส่หน้ากากกำลังทำลายและเผาไฟ Bank of China สาขา Tsuen Wan
มีวิดีโอความยาว 5 นาที เผยแพร่ให้เห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในฮ่องกง
มีการปิดถนน จุดไฟเผาหลายแห่งซึ่งรวมถึงหน้าทางเข้าออกสถานีรถไฟใต้ดินบางแห่ง
มีการทำลายสัญญาณจราจรบนถนน
ธนาคารและธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับจีนเป็นเป้าหมายของการโจมตี
เจ้าหน้าที่ถูกทำร้าย ตำรวจนอกเครื่องแบบยิงเด็กอายุ 14 ปีในกลุ่มผู้ก่อจลาจล มีการเดินขบวนไปที่ทำการรัฐบาลฮ่องกง
นางแครี่ หล่ำ แถลงการณ์บอกให้ประณามความรุนแรงและการจลาจลของผู้ประท้วง
ฮ่องกงวันนี้ รถไฟใต้ดิน ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ ธนาคาร ปิดทำการหมด
ตู้เอทีเอ็มในฮ่องกง 3,300 ตู้ หรือประมาณ 10% ได้รับความเสียหายใช้การไม่ได้
รัฐบาลฮ่องกง กำลังเตรียมออกมาตรการณ์ใหม่ออกมาอีกหลายอย่าง เพื่อป้องกันเรื่องเลวร้ายต่างๆที่อาจมีตามมา ความตื่นตระหนกอาจทำให้ระบบการเงินในฮ่องกงมีปัญหา
กฎหมายสั่งห้ามผู้ประท้วงสวมหน้ากากเริ่มมีผลในวันเสาร์ที่ 5-10-2019 แต่ยังมีผู้ประท้วงจำนวนมากใส่หน้ากากออกมาประท้วงเหมือนเดิม ก่อความรุนแรงมากขึ้น วันที่เริ่มประกาศแบนหน้ากากยังไม่มีใครโดนจับในข้อหาใส่หน้ากากออกมาประท้วง
วันนี้เริ่มแบนคนสวมหน้ากาก แล้ววันพรุ่งนี้จะมีอะไรตามมาอีก?
สื่อโซเชียลอาจเป็นเป้าหมายใหม่ที่จะโดนแบนในฮ่องกง
Google, Facebook, YouTube และสื่อโซเชียลดังๆอีกหลายแห่งที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดนบล็อกในประเทศจีน แต่ในฮ่องกงไม่มีการห้าม ยังใช้ได้เหมือนประเทศอื่นๆทั่วโลก
สื่อโซเชียลที่รัฐบาลจีนหรือฮ่องกงไม่ได้เข้าควบคุม เป็นช่องทางในการนัดแนะสำคัญของกลุ่มผู้ประท้วงหนุ่มสาวชาวฮ่องกง และเป็นแหล่งข่าวสาระสำคัญที่ทำให้คนฮ่องกงจำนวนมากมีความคิดเห็นต่อต้านรัฐบาลจีน
สื่อโซเชียลอาจเป็นเป้าหมายต่อไปที่มีการเซ็นเซอร์หรือบล็อกเหมือนที่เป็นอยู่ในประเทศจีน มีนักวิเคราะห์บางรายมองว่าอาจใช้มาตรการรุนแรงถึงขั้นการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตในฮ่องกง
จุดชนวนเริ่มต้นมาจากกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปประเทศจีน ซึ่งคนฮ่องกงมองว่าเป็นหนทางที่ใช้กลั่นแกล้งเล่นงานฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลจีนในปักกิ่ง
แต่วันนี้ผู้ประท้วงเริ่มมีประเด็นเรื่องความเหลื่อมล้ำของประชาชน คนหนุ่มสาวเริ่มมองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง
วันชาติจีนเมื่อวันที่ 1-10-2019 ที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ยังตอกย้ำเรื่องหนึ่งประเทศสองระบบ และการรวมประเทศอย่างสันติ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฮ่องกงวันนี้ มองไม่เห็นเลยว่าจะรวมกันอย่างสันติได้อย่างไร
แต่กลับทำให้คิดถึงข้อความที่เคยเห็นในยุคที่มีการประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน และประโยคเด็ดจากในหนัง และผู้ประท้วงชาวฮ่องกงนำมาใช้…
“ให้ประชาธิปไตยกับฉัน หรือ ให้ฉันตาย”
“ถ้าเรามอดไหม้ คุณมอดไหม้ไปกับเรา”
.