ก่อนที่จะเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ภัตตาคารหรือร้านอาหารในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย เริ่มมีการปรับเปลี่ยนแล้ว มีการสั่งอาหารไปทานที่บ้านมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การสั่งอาหารผ่านแอปที่สะดวกกว่า และถูกกว่าการเดินทางไปที่ร้านด้วยตัวเอง เป็นตัวกระตุ้นหลักที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ร้านอาหารหลายแห่งมีคนอยากไปกินบ่อยๆ แต่มีอุปสรรคเรื่องการเดินทางหรือที่จอดรถ พอมีบริการแอปสั่งอาหารที่สะดวก ทำให้ร้านอาหารเหล่านี้คึกคักมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ร้านอาหารตามห้างที่มีเชนหลายสาขา ก็มียอดขายผ่านแอปเพิ่มขึ้น
ภัตตาคารและร้านอาหารต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเชนสโตร์ที่กระจายอยู่ตามศูนย์การค้าหรือย่านชุมชน มีการปรับรูปแบบมาได้ซักระยะแล้ว สาขาที่เปิดใหม่ในระยะหลังมีขนาดเล็กลง และเน้นเรื่องการส่งถึงบ้านมากขึ้น
สถานการณ์ COVID-19 กลายเป็นตัวเร่งทำให้ธุรกิจร้านอาหารต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น ต้องเน้นเรื่องบริการส่งถึงบ้านมากขึ้น และหากยังมีบริการให้นั่งกินในร้าน ต้องปรับรูปแบบบริการและพื้นที่ในร้านหลายอย่าง
ในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย วันนี้ร้านอาหารยังไม่เปิดบริการให้ไปนั่งกินกันในร้าน แต่ซื้อกลับหรือสั่งผ่านแอปได้ และยังไม่รู้แน่ชัดว่า เมื่อไหร่ถึงจะได้กลับไปเปิดตามปกติ แต่ถ้าได้เปิดร้านให้คนเข้ามานั่งกินในร้านอีก รูปแบบคงไม่เหมือนเดิม
ร้านอาหารรูปแบบใหม่จะมีความปลอดภัยมากกว่า และต้องเคร่งครัดปฏิบัติตามกันนานอย่างน้อย 1-2 ปี เพราะเป็นเวลาที่คาดว่าจะมีวัคซีน COVID-19 แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปแล้ว อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับอนาคต เป็นการเปลี่ยนแปลงไปแบบถาวร
ร้านอาหารต่างๆ คงต้องทำการตลาดสร้างลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านแอปมากขึ้น มันจะกลายเป็นช่องทางการขายหลักของทุกร้าน
สาเหตุที่ในช่วงนี้ ทางการของประเทศต่างๆ ไม่ยอมให้ร้านอาหารเปิดบริการให้คนไปนั่งกินกันในร้าน เพราะกลัวว่าการรวมตัวกันในร้านอาหารจะทำให้มีการแพร่ระบาดของไวรัสมากขึ้น
COVID-19 เข้าสู่ร่างกายผ่านทางปากของคนที่นั่งอยู่รวมกันในร้านอาหารหลายๆคนได้ แอร์ที่หมุนเวียนอากาศอยู่ในร้าน อาจทำให้ไวรัสฟุ้งกระจายแพร่ไวรัสไปให้คนทั้งร้าน
เริ่มมีการคาดการณ์เรื่อง New Normal ของร้านอาหารในอนาคตกันออกมามาก ตัวอย่างของสิ่งที่จะมีการเปลี่ยนแปลง เช่น
-การตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าร้านทุกคน มีอ่างล้างมือหรือแอลกอฮอลทำความสะอาดมือก่อนเข้าร้าน
-พนักงานบริการในร้านต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือเฟซชิลด์ ใส่ถุงมือตลอดเวลา และเปลี่ยนถุงมือใหม่เมื่อบริการลูกค้ารายใหม่
-การจัดโต๊ะในร้านต้องมีระยะห่างมากขึ้น ถ้ายึดหลักตามกระทรวงสาธารณสุขของหลายประเทศจะห่างกัน 2 เมตร
-จำนวนคนนั่งในแต่ละโต๊ะ จะมีน้อยลง
-ร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่ อาจต้องแบ่งซอยออกเป็นห้องเล็กๆหลายห้อง
-ต้องปรับระบบระบายอากาศภายในร้าน ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ
-ลูกค้าในร้านต้องได้เห็น และรู้สึกได้ถึงความใส่ใจเรื่องความสะอาด มีผ้าเช็ดมือที่อยู่ในห่อเรียบร้อยบนโต๊ะ มีแอลกอฮอลหรือเจลทำความสะอาดมือวางไว้ตามโต๊ะ หรือพื้นที่ต่างๆในร้าน
-ช้อนส้อม มีด แก้ว ตะเกียบ จาน ต้องดูสะอาด เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า
-เครื่องปรุงต่างๆ เช่น เกลือ พริกไทย อาจเป็นซองที่ใช้ครั้งเดียว หรือเอามาให้ลูกค้าเมื่อร้องขอเท่านั้น
-อาหารที่นำมาส่งโดย คน รางเลื่อน หรือ หุ่นยนต์ ต้องอยู่ในฝาครอบ ไม่มีอะไรมาปนเปื้อนระหว่างการมาส่งที่โต๊ะ
-มีแนวโน้มที่ร้านอาหารต่างๆจะปรับรูปแบบเป็นการบริการตัวเองมากขึ้น เพื่อลดการสัมผัสระหว่างผู้คนให้น้อยลง
-เลิกใช้เมนูกระดาษ แต่เป็นเมนูดิจิทัลที่ทำความสะอาดได้ง่าย หรือเป็นสกรีนบอร์ดที่ต่อต้านจุลินทรีย์หรือเชื้อโรคได้
-จ่ายเงินแบบแคชเลซที่โต๊ะ หากส่งบัตรเครดิตให้แก่กัน ผู้รับจะทำความสะอาดบัตรทั้งตอนรับเข้าและส่งคืน
-มีเครื่องหมายเป็นสถานที่ยืนรอ มีช่องทางเดินภายในร้าน เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถรักษาระยะห่างทางสังคมได้ตลอดเวลา
ตัวอย่างสิ่งที่จะเปลี่ยนไป เป็นการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์เท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นจริงซึ่งอาจเป็นกฎระเบียบใหม่ของร้านอาหารในประเทศต่างๆ อาจเข้มงวดหรือหย่อนกว่านี้ก็ได้
นักวิเคราะห์ทั่วโลกมีความเห็นตรงกันว่า ธุรกิจภัตตาคารหรือร้านอาหารคงมีแนวโน้มแย่ลง เศรษฐกิจที่จะถดถอยในยุคหลัง COVID-19 จะทำให้ผู้คนมีกำลังซื้อลดน้อยลง แต่ถ้าเป็นร้านอาหารทั่วไปซึ่งราคาไม่แพง คงได้รับผลกระทบน้อยกว่า
ความกังวลของผู้คนที่กลัวว่าจะติดเชื้อไวรัส คงทำให้จำนวนคนไปกินอาหารในร้านอาหารต่างๆลดน้อยลงมาก
การสั่งอาหารไปทานที่บ้าน น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า…..
https://www.qsrweb.com/articles/covid-19-will-forever-change-the-foodservice-industry/
https://hospitalitytech.com/restaurant-business-model-changes-post-covid-19-world
https://time.com/5820618/coronavirus-future-of-food/