ถ้าไม่มีผลการสำรวจอะไร ใครๆก็มองออกว่า ตลาดสินค้าหรู พวกสินค้าแบรนด์เนมที่หากินกับลูกค้า ต้องได้รับผลกระทบหนักจาก โควิด-19 แน่ๆ
รายงานล่าสุดจาก Bain & Company คาดการณ์ว่าสินค้าหรูส่วนบุคคลอาจตกลงมามากถึง 60% ในไตรมาสที่สองเพราะโคโรน่าไวรัส
การระบาดของไวรัสทำให้หลายประเทศต้องปิดร้านค้าที่ไม่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ผู้คนถูกสั่งให้กักตัวเองอยู่แต่ในบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในปี 2019 ยอดขายสินค้าหรูส่วนบุคคลทั่วโลกมีอยูประมาณ 281,000 ล้านยูโร แต่ Bain & Company ประเมินว่าปี 2020 จะตกลงเหลือ 180,000 – 220,000 ล้านยูโร
ร้านค้าสินค้าหรูในหลายประเทศปิดมาสองสามเดือนแล้ว และอีกสองสามเดือนข้างหน้าก็ไม่มีเค้าว่าจะได้เปิดร้าน หรือถ้าได้เปิดร้านจริง ก็ยากที่จะหาลูกค้าที่มีกำลังซื้อจริง
มีการคาดการณ์ว่า สินค้าหรูส่วนบุคคล เช่น เสื้อผ้า จิวเวอร์รี่ นาฬิกา เครื่องสำอาง กระเป๋า ฯลฯ จะมียอดขายทั่วโลกในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2020 ตกลงประมาณ 50% – 60%
บนเงื่อนไขว่า ถ้าไม่มีการระบาดหนักระรอกใหม่ ตลาด Personal Luxury ปี 2020 จะมียอดขายลดลงระหว่าง 20% – 35% เมื่อเทียบกับปี 2019
McKinsey & Company บริษัทที่ปรึกษาชื่อดังของโลกอีกแห่งก็ประเมินไปในทิศทางเดียวกับ Bain & Company โดยประเมินว่า ตลาด Personal Luxury ปี 2020 จะมียอดขายลดลงระหว่าง 35% – 39% เมื่อเทียบกับปี 2019
จากการวิเคราะห์ผลประกอบการของบริษัทสินค้าหรูที่มีหุ้นซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์พบว่า 80% ของบริษัทในยุโรปและอเมริกาเหนือ กำลังจะมีปัญหารุนแรงทางด้านการเงิน
มีการคาดการณ์ต่อไปว่า ลูกค้าสินค้าหรูที่เป็นนักช็อปชาวจีน จะเป็นตัวหลักที่ทำให้สินค้าแบรนด์เนมทั้งหลายฟื้นคืนกลับมาได้
หลายเดือนที่ผ่านมานี้ อาจทำให้ลูกค้าจีนที่เก็บกดไม่มีโอกาสช็อปปิ้ง กลับมาช็อปกระจายอีกครั้ง
หลายปีที่ผ่านมานี้ ตัวเลขยอดขายสินค้าหรูที่มีร้านเปิดอยู่ในประเทศจีน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามฐานะทางด้านการเงินของคนจีนที่ดีขึ้นต่อเนื่อง แม้วันนี้จะเริ่มเปิดทำการบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่เต็มที่นัก
สินค้าหรูส่วนบุคคลจำนวนมาก เกิดขึ้นจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางข้ามประเทศไปช็อปปิ้งนอกบ้าน ปารีส ลอนดอน นิวยอร์ค เคยเป็นแหล่งที่อยู่สำคัญของนักออกแบบชื่อดังของโลก วันนี้กำลังมีปัญหาหนักหน่วงจากการระบาดของโควิด-19 และไม่เหลือนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเมืองต่างๆเหล่านี้แล้ว
มีการคาดการณ์ว่า ตลาดสินค้าหรูจะต้องซบเซาไปอีกหลายปี อาจต้องรอถึงปี 2025 ถึงจะฟื้นกลับมาเหมือนเดิมหรือดีขึ้นได้
ในปี 2019 มีสถิติแสดงให้เห็นว่า ลูกค้านักช็อปสินค้าหรูจากประเทศจีนมีมากถึง 35% และจะมีสัดส่วนเติบโตขึ้นมากกว่า 50% ในอีกห้าปีจากนี้
จีนที่ยังเรียกตัวเองว่าเป็นประเทศคอมมิวนิสต์กำลังเปลี่ยนไป วันนี้กลายเป็นประเทศที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของสินค้าหรูที่แสดงความแตกต่างกันของชนชั้น
มันห่างไกลจากความเป็นคอมมิวนิสต์จนไม่เหลือเค้าเดิมอีกต่อไปแล้ว…….