เปรียบเทียบ ค่าซ่อมและค่าดูแลรักษา BEV, PHEV ค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งของ ICE ผลการวิจัยจาก Consumer Report

เราเคยได้ยินผู้ที่สนับสนุนให้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าวิเคราะห์ให้ฟังบ่อยๆว่า ค่าดูแลรักษาและค่าซ่อมแซมรถ EV ต่ำกว่ารถ ICE ที่ใช้น้ำมันอย่างมาก

ยานยนต์ไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์ ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไม่ต้องเจอปัญหาการสึกหรอของอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์

CR หรือ Consumer Report ซึ่งเป็นองค์กรเก่าแก่ที่อยู่มานานกว่า 80 มีงานวิจัยและบทความมากมายตามสื่อต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ โดยมีจุดเป้าหมายหลักเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคโดยตรง

รายงานของ CR ที่วิเคราะห์ข้อมูลจากการสำรวจในปี 2019 และ 2020 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จากยานยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ใช้น้ำมันหลายพันคัน พบว่า…

ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า สามารถประหยัดค่าดูแลรักษาและค่าซ่อมแซมตลอดอายุการใช้งาน ต่ำกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน โดยเฉลี่ยแล้ว 50%

ดูรายละเอียดผลการสำรวจได้ตามลิงก์ https://advocacy.consumerreports.org/…/Maintenance-Cost-Whi…

ค่าดูแลรักษาและซ่อมแซมตลอดอายุการใช้งานของรถ:

-BEV (Battery-Electric Vehicle): $0.03/mile

-PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle): $0.03/mile

-ICE (Internal Combustion Engine): $0.06/mile

BEV คือ ยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ 100%

PHEV คือ ยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถใช้ไฟฟ้าและน้ำมันได้ มีช่องให้เสียบปลั๊กชาร์จไฟ

ICE คือ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน

BEV ไม่มีเครื่องยนต์ ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และไม่ค่อยมีปัญหา สรุปแล้วค่าซ่อมและค่าดูแลรักษาต่ำกว่ารถ ICE มาก

ในการศึกษาครั้งนี้มีข้อสรุปว่า BEV และ PHEV มีค่าซ่อมและค่าดูแลรักษาโดยเฉลี่ยต่อ 1 ไมล์ เท่ากัน คือ 0.03 ดอลลาร์

ในรายงานนี้ กำหนดอายุการใช้งานอยู่ที่ 200,000 ไมล์ แต่ในความเป็นจริง อายุการใช้งานของรถ BEV จะนานกว่า ICE มาก หากแบตเตอรี่เสื่อม เมื่อเปลี่ยนใหม่ก็ใช้งานได้เหมือนปกติ

ในหลายๆประเทศ เริ่มมีเส้นตายไม่ให้ใช้รถน้ำมันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น PHEV หรือ ICE ต่อไปในอนาคตจะถูกสั่งแบน เพราะเป็นตัวการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สร้างมลพิษทางอากาศให้กับโลก

เกือบทุกประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ได้ลงนามข้อตกลงที่กรุงปารีสสำหรับ Zero Emission หรือไม่ปล่อยมลพิษสู่โลกภายในปี 2050

แต่การตัดสินใจซื้อยานยนต์ไฟฟ้าหรือรถใช้น้ำมัน ไม่ได้อยู่ที่ค่าซ่อมแซมและการดูแลรักษาที่ต่างกันเท่านั้น ยังมีปัจจัยสำคัญเรื่อง ราคา และความสะดวกเรื่องสถานีชาร์จไฟฟ้า

ในหลายๆประเทศ มีการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจากภาครัฐ และมีเงินอุดหนุนพิเศษที่ทำให้ราคารถไม่ต่างกันมาก และผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและหน่วยงานของรัฐก็เร่งมือเตรียมพร้อมสำหรับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆเอาไว้แล้ว

ประเทศไทย ก็เริ่มลงมือทำแล้ว แม้จะช้าไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไร….

https://advocacy.consumerreports.org/…/electric-vehicle-ow…/

Leave a Reply