(บทความ : สุทธิชัย ทักษนันต์)
บิล เกตส์ อดีตเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลก เขียนไว้ในหนังสือ THE ROAD AHEAD ที่ออกขายในปี 1995 มีการทำนายอนาคตไว้ว่า….
“การโฆษณาจะเปลี่ยนไป เมื่อคุณคิดว่าอะไรที่คุณได้ซื้อมามันไม่ค่อยดี หรือดีจนคุณชอบมันมาก คุณสามารถบอกลูกค้าคนอื่นในอินเตอร์เน็ตได้ และก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้ออะไร คุณสามารถอ่านว่าคนอื่นๆพูดเกี่ยวกับมันว่าอย่างไร”
สิ่งที่ บิล เกตส์ พูดถึงเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนก็คือการรีวิวจากผู้ใช้สินค้าหรือบริการ ซึ่งในปัจจุบันเป็นข้อมูลสำคัญที่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อของผู้คนจำนวนมาก
ที่จริงเรื่องของการแบ่งปันประสบการณ์สินค้าหรือบริการไม่ใช่เรื่องใหม่ สมัยที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตแพร่หลายแบบทุกวันนี้ เวลาผู้คนจะซื้ออะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งของที่มีราคาสูง ก็มักจะสืบเสาะข้อมูลจากผู้ที่เคยใช้มาก่อนว่าดีหรือไม่ เป็นข้อมูลพื้นฐานก่อนการตัดสินใจซื้อจริง
ถ้าเป็นของที่มีราคาต่ำ มักจะหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง ลองใช้เอง หากถูกใจก็ใช้ต่อ ไม่ถูกใจค่อยเลิกใช้ และอาจมีการแนะนำไม่ให้คนอื่นซื้อใช้ด้วย
แต่ยุคนี้อินเตอร์เน็ตมีความแพร่หลายครอบคลุมกว้างมาก ค้นหาข้อมูลง่าย ไม่ว่าของราคาสูงหรือต่ำ มีประสบการณ์ผู้ใช้แบ่งปันมากมายในโลกออนไลน์ และดูเหมือนจะกลายพฤติกรรมของคนจำนวนมากที่จะสืบหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่
เจฟฟ์ เบโซส เศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกในปัจจุบัน ซึ่งเริ่มธุรกิจอเมซอนด้วยการขายหนังสือทางออนไลน์แบบอีคอมเมิร์ซในปี 1995 ซึ่งเป็นยุคเริ่มแรกของอินเตอร์เน็ต และเขาเป็นคนแรกๆที่นำระบบรีวิวมาใช้ในธุรกิจ
เมื่อประมาณยี่สิบปีก่อน อเมซอน เริ่มอนุญาตให้ลูกค้ารีวิวสินค้าได้ มีผู้จัดพิมพ์บางส่วนไม่ค่อยแฮปปี้นัก เพราะกังวลเรื่องความเห็นด้านลบ การยอมให้รีวิวเป็นประเด็นร้อนที่ถกเถียงกันมากในยุคนั้น แต่ เจฟฟ์ เบโซส คิดว่ามันเป็นเรื่องถูกต้องที่ควรให้ลูกค้าที่เคยอ่านและมีประสบการณ์ตรงได้แสดงความคิดเห็นของตัวเอง ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นในปัจจุบันอย่างแน่ชัดแล้วว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง
โดยสรุปแล้วการรีวิวที่ทำการวิจารณ์มี 2 ประเภท อย่างแรกเป็นพวกที่มีความบริสุทธิ์ใจ เป็นการวิจารณ์ที่มีความหมาย เป็นความเห็นแบบตรงไปตรงมาอย่างยุติธรรม ซึ่งอาจมีทั้งด้านบวกและลบปะปนกันไป แต่อีกพวกหนึ่งเป็นการวิจารณ์ที่ยึดเอาตัวเองเป็นที่ตั้งและหลายๆครั้งมาจากคู่แข่งหรือผู้ไม่หวังดีที่แอบแฝงเข้ามาโจมตี
สำหรับสมัยนี้ ไม่ว่าจะชอบริวิวหรือไม่ก็ตาม เจ้าของสินค้าหลีกเลี่ยงการถูกวิจารณ์ได้ยาก สิ่งที่ควรทำคือ หากเป็นภาพสะท้อนด้านลบก็ต้องรีบปรับปรุงและประชาสัมพันธ์ใหม่ แต่ถ้าเป็นการโจมตีแบบไร้เหตุผลก็ต้องเข้าไปร่วมนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง
ลูกค้าผู้บริโภคยุคนี้เป็นพวกฉลาดซื้อฉลาดใช้ อ่านอะไรหรือฟังอะไรมา ก็ไม่เชื่อแบบหมดใจ มักจะหาข้อมูลมากๆไว้ก่อนซึ่งหาง่ายมาก และมีการพิจารณาดูแหล่งข้อมูลด้วยว่าน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน
การรีวิวทำให้ได้ข้อเท็จจริงรอบด้าน เป็นความโปร่งใส เป็นความจริง มันไม่สามารถหลอกลูกค้าได้ง่ายๆเหมือนในอดีตอีกแล้ว…..