บิล เกตส์ เล่าในรายการ Ted Talk ในปี 2015 ว่า…
“สมัยผมเป็นเด็ก เรื่องหายนะที่เรากังวลมากที่สุด คือ สงครามนิวเคลียร์ เรามีถังใส่อาหารและน้ำเก็บไว้ในห้องใต้ดิน.. เวลาที่มีการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ เราคงลงไปอยู่ในห้องใต้ดิน หลบอยู่ข้างล่าง อยู่กินกันในนั้น”
“วันนี้ ความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภัยพิบัติโลก คงไม่ใช่สงครามนิวเคลียร์ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการติดเชื้อจากไวรัส”
มิลินดา เกตส์ ภรรยาของ บิล เกตส์ เริ่มกักเก็บสต๊อกอาหารจำนวนมากไว้ในห้องใต้ดินภายในบ้านมานานหลายปีแล้ว ทำมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีข่าวการแพร่ระบาดของ COVID-19 เธอให้สัมภาษณ์กับ BBC Radio Live เมื่อวันพฤหัสที่ 16-04-2020 ว่า…
“หลายปีมาแล้ว เราได้พูดถึงเรื่องนี้กันว่า จะเป็นอย่างไรถ้าไม่มีน้ำสะอาด? จะเป็นอย่างไรถ้าไม่มีอาหารเพียงพอ? เราจะไปไหนกัน? ครอบครัวของเราจะทำอย่างไร? ฉันเลยคิดว่า เราควรเตรียมตัวเรื่องเหล่านั้นไว้ให้พร้อม”
“เราเตรียมพร้อม เอาอาหารไปเก็บไว้ในห้องใต้ดิน เผื่อไว้ในยามจำเป็น และวันนี้เราก็อยู่ในสถานะเดียวกับคนอื่นๆ”
“สิ่งที่เราคุยกันส่วนใหญ่ในบ้านทุกคืน คือ การบอกตัวเองว่า เราโชคดีแค่ไหน เราเข้าใจถึงสิทธิพิเศษที่เรามี …เราต้องขอบคุณสำหรับสิ่งที่เรามี เราไม่ต้องอดอยากในการหาอาหารมาไว้บนโต๊ะเหมือนอย่างที่หลายๆครอบครัวทั่วโลกกำลังเจอ”
ครอบครัวเกตส์ ไม่ต้องตื่นตระหนกเรื่องอาหารเหมือนบ้านอื่น พวกเขาเตรียมพร้อมล่วงหน้ามานานเป็นปี
มูลนิธิ บิล และ มิลินดา เกตส์ จัดเตรียมเงินเพื่อการกุศลสำหรับการต่อสู้กับ COVID-19 ไว้มากถึง 250 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นเงินที่จะให้การสนับสนุนองค์กรต่างๆทั่วโลก
คนรวยๆแบบ บิล เกตส์ มีต้นทุนทางสังคมสูง มีต้นทุนชีวิตสูงกว่าคนธรรมดาทั่วไป ความมีวิสัยทัศน์กว้างไกลแบบนักเทคโนโลยี ทำให้เขาคาดการณ์อะไรล่วงหน้าได้ถูกต้องอยู่เสมอ