สิ่งที่อยู่นอกโลกในอวกาศ ทั้งที่อยู่ในระบบสุริยะ และอื่นๆ มนุษย์ยังมีข้อมูลความเข้าใจน้อยมาก บางเรื่องเป็นการสรุปที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่เชื่อถือกันมานานหลายอย่าง มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องมากขึ้น ตามการค้นพบใหม่ที่ตามมา
กล้องดูดาวที่สร้างขึ้นครั้งแรกขยายภาพได้เพียงไม่กี่เท่า แต่ในปัจจุบันขยายภาพได้มากกว่า 1 ล้านเท่า
วิวัฒนาการทางเทคโนโลยี ช่วยทำให้เราเข้าใจเกี่ยวกับดาวต่างๆเพิ่มขึ้น
ในสมัยโบราณ ถ้าไม่นับโลกของเรา มนุษย์รู้จักดาวเคราะห์เพียง 5 ดวงเท่านั้น เพราะสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า คือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ หากนับรวมดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่มองเห็นได้เช่นกัน ก็กลายเป็นดาวบนท้องฟ้า 7 ดวง และเป็นที่มาของการนับเวลา 7 วันต่อสัปดาห์ และยังเป็นไปตามความเชื่อถือทางโหราศาสตร์ว่ามีอิทธิพลต่อดวงชะตาชีวิตของคนบนโลก
นับเฉพาะระบบสุริยะที่โลกเราอยู่ด้วย เคยมีข้อมูลความรู้เดิมว่า ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง และมีดาวเคราะห์ในระบบที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ 9 ดวง แต่ข้อมูลใหม่รายงานว่ามีเหลือแค่ 8 ดวง ไม่มีดาวพลูโตรวมอยู่แล้ว
สิ่งที่อยู่ในอวกาศทั้งที่มองเห็นด้วยตาเปล่าหรือต้องใช้กล้องดูดาว คือ ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง อุกกาบาต และยังมีฝุ่นและก๊าซ ที่ล่องลอยระหว่างดาวเคราะห์แต่ละดวง
ดาวแต่ละดวงมีแรงดึงดูดระหว่างกัน มีแรงควบคุมที่กลายเป็นวงโคจรต่างๆ
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบระบบวงโคจรของดาวเคราะห์มากกว่า 4,000 ดวง แต่ยังไม่มีข้อมูลที่สามารถอธิบายภาพของการโคจรของดาวแต่ละดวงที่สมบูรณ์
ที่ผ่านมา เวลานักดาราศาสตร์คำนวณวงโคจรของดาวต้องสร้างแบบจำลองและการคำนวณที่ซับซ้อนมาก ต้องใช้เวลาแต่ละครั้งนานประมาณ 10 ชั่วโมง กว่าจะเรียนรู้จนเข้าใจดาวทุกดวงคงต้องใช้เวลานานเป็นปี แต่วันนี้ในวงการดาราศาสตร์มีข้อมูลพื้นฐานจำนวนมากที่สามารถนำมาฝึกฝน AI เพื่อมาช่วยคาดการณ์วงโคจรของดาวต่างๆ ได้
Machine Learning Algorithm ของ AI สามารถสร้างรูปแบบวงโคจรของดาว งานที่ในอดีตเคยใช้เวลาแต่ละครั้ง 10 ชั่วโมง สามารถทำเสร็จในเวลาไม่ถึงเศษเสี้ยวของวินาที
นักวิทยาศาสตร์กำลังสำรวจดาวบนท้องฟ้า และให้ AI คาดการณ์ว่าระบบดาวเคราะห์ไหนจะอยู่รอด ดาวดวงไหนมีแนวโน้มจะโคจรมาชนกันและสูญสลายดับสิ้นไป
การศึกษาดาวในระบบสุริยะ และระบบอื่นๆในอวกาศ ทำให้นักวิทยาศาสตร์มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น ดาวแต่ละดวงไม่ได้คงอยู่ตลอดไป
ข้อมูลที่เรียนรู้จากดาวในอวกาศ จะทำให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจโลกที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบสุริยะดีขึ้น หรืออาจมีข้อมูลใหม่ที่ถูกต้องมากขึ้น ทำให้คาดการณ์อนาคตของโลกได้ดียิ่งขึ้นด้วย
ความเชื่อของมนุษย์ในอดีต กำหนดว่า โลก เป็นศูนย์กลางของจักวาล ซึ่งในที่สุดมีการค้นพบที่ยืนยันแน่ชัดว่า ไม่ถูกต้อง
คนโบราณบอกว่าโลกแบน แต่เวลามองขึ้นไปบนท้องฟ้า เราเห็นดาวทุกดวงมีลักษณะเป็นวงกลม พอมีนักเดินเรือที่สามารถเดินทางรอบโลกได้จริง ก็ไม่มีคนโบราณไหนมาโต้แย้งอีก
AI ช่วงเร่งการทำงานและการค้นพบมากมายในหลายสาขาแล้ว
วันนี้มีนักดาราศาสตร์ AI ที่จะช่วยทำให้มนุษย์รู้จักดาวบนท้องฟ้าดีขึ้น และรวมถึงการรู้จักเข้าใจโลกของเราดีขึ้นด้วย
https://futurism.com/the-byte/ai-predicts-planets-smash
https://phys.org/news/2020-07-artificial-intelligence-planetary-survive.html