สตาร์ทอัพสิงคโปร์กับธุรกิจแสนล้าน เอารังไหมแมลงวันลายไปสกัดทำยา แมลงกินเศษอาหารเหลือทิ้งของคน ธุรกิจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีจริยธรรม     

สตาร์ทอัพสิงคโปร์ Insectta ที่ก่อตั้งโดยผู้หญิงอายุ 26 ปี ใช้เศษอาหารของคนไปเป็นอาหารให้ตัวอ่อนแมลงวัน เอามูลไปทำปุ๋ย รังไหมใช้เป็นส่วนผสมยา หนอนหรือแมลงวันที่ตายเอาไปตากแห้งทำอาหารสัตว์

เศษอาหารเหลือทิ้งของคนถูกรีไซเคิลไปใช้ประโยชน์ และไม่มีอะไรสูญเปล่าตลอดขบวนการ

แมลงวันที่เลี้ยง คือ Black Soldier Fly แปลตรงตัวว่าแมลงวันทหารดำ แต่ในประเทศไทยเรียกว่า แมลงวันลาย มันเป็นแมลงที่หาได้ง่าย ไม่กัด ไม่มีพิษมีภัยกับคน

ในสิงคโปร์ ปี 2020 มีเศษอาหารเหลือทิ้ง 665,000 ตัน และมีเพียง 19% ที่ถูกนำไปรีไซเคิลใช้ประโยชน์

Insectta นำเศษอาหารเหลือทิ้งของคนสิงคโปร์มาทำเป็นอาหารสำหรับตัวอ่อนแมลงวันลาย มีส่วนผสมบางส่วนได้มาจากโรงงานถั่วเหลืองและเบียร์ซึ่งเป็นซากหรือกากที่เหลือจากเมล็ดพืชใช้แล้ว

มูลของตัวอ่อนจะถูกเก็บเอาไปทำปุ๋ยในฟาร์ม

ตัวอ่อนแมลงวันลายกินอาหารจนกลายเป็นหนอนแมลงวันลายที่โตเต็มที่ มันจะสร้างรังไหมขึ้นมา และใช้เวลาประมาณ 10–14 วัน กว่าจะกลายเป็นแมลงวันลายที่บินออกจากรังไหม

สิ่งที่มีมูลค่ามากที่สุดในขบวนการผลิต คือ รังไหม ที่แมลงวันลายทิ้งเอาไว้

รังไหมจะถูกสงัดออกมาเป็นวัสดุชีวภาพที่มีมูลค่าสูง เช่น Chitosan ซึ่งเอาไปใช้ทำยาและเครื่องสำอาง และ Melanin ซึ่งสามารถเอาไปใช้เป็นวัสดุสำหรับการทำอุปกรณ์อีเล็กทรอนิค

ไคโตซาน เป็นสารต้านจุลชีพที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งถูกใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและยา สามารถใช้เป็นเยื่อบุของหน้ากากอนามัย

ห้องแล็บของรัฐบาลสิงคโปร์ให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพ Insectta ในการวิจัยพัฒนาสกัดไคโตซานจากรังไหม

ในปัจจุบันแหล่งที่มาหลักของ ไคโตซาน ได้มาจากเปลือกหอย หากเอาเปลือกหอยมาใช้กันมากๆ จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ ไคโตซาน ที่ได้จากแมลงวันลายจะมีความยั่งยืนมากกว่า

แมลงวันลายที่ออกจากรังไหมจะผสมพันธุ์กันและวางไข่ และถูกฝักเป็นตัวอ่อนเพื่อเริ่มขบวนการผลิตรอบใหม่อีกครั้ง

สตาร์ทอัพ Insectta มีโครงการจะขยายธุรกิจให้เติบโตเร็วขึ้นโดยขายไข่แมลงวันลายไปให้ฟาร์มอื่นไปเลี้ยง

ตัวอ่อนหรือแมลงวันลายที่ตาย สามารถเอาไปตากแห้งทำเป็นอาหารสัตว์ได้

มีการประเมินว่า ภายในปี 2030 ตลาดของผลิตภัณฑ์จากแมลงวันลาย จะมีขนาดใหญ่ถึง 3,400 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 112,200 ล้านบาท

สิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆที่มีปัญหาเรื่องพื้นที่ หากการเลี้ยงแมลงวันลายเกิดขึ้นในสิงคโปร์ได้ ประเทศอื่นๆอย่างประเทศไทยก็คงทำได้

สตาร์ทอัพแบบนี้ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก และยังเป็นธุรกิจที่มีจริยธรรมอย่างมาก ไม่มีการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตตลอดขบวนการ

https://edition.cnn.com/2021/08/29/business/insectta-black-soldier-fly-maggots-hnk-spc-intl/index.html

Leave a Reply