ปี2020 5Gจะเป็นจริงทั่วโลกและประเทศไทย รถไร้คนขับเชื่อมต่อกับถนนและรถผู้ร่วมใช้ทาง IoTเชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกชนิดเข้าด้วยกัน

เทคโนโลยีเซลลูลาร์ยุค 1G เริ่มมีใช้ช่วงยุค 1980S เป็นระบบ Analog และเริ่มเปลี่ยนเป็นระบบ Digital ในยุค 2G ตั้งแต่ปี 1991 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคการสื่อสารข้ามโลก

3G ปี 1998 และ 4G ปี 2008 ได้สร้างกระแสอินเตอร์เน็ตมือถือทั่วโลก เริ่มทำลายรูปแบบการทำธุรกิจแบบเก่าจำนวนมาก ซื้อตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม เรียกแท็กซี่ จ่ายบิล ใช้สมาร์ตโฟนทำงานแทนได้หมด

ส่วนยุค 5G ที่จะมีใช้อย่างเป็นทางการในปี 2020 จะเป็นจุดเริ่มต้นของโลกยุคสารพัดสมาร์ต สิ่งของและอุปกรณ์ต่างๆสามารถเชื่อต่อกันได้หมด

Internet of Things ที่เคยมีการคาดการณ์กันตั้งแต่เริ่มมีการใช้อินเตอร์เน็ตครั้งแรกในโลกจะเริ่มเป็นจริงในยุค 5G

หลายประเทศในโลกคงมีการใช้อินเตอร์เน็ต 5G อย่างเป็นทางการในปี 2020 แม้แต่ประเทศไทยเองรองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ก็ประกาศความร่วมมือกับหัวเว่ยว่า ประเทศไทยจะมี 5 G ใช้ใน 2-3 ปี ข้างหน้าเช่นกัน

เครือข่าย 4G ในปัจจุบันมีความเร็วในการดาวโหลด 100 Mbps แต่เครือข่าย 5G ตามทฤษฏีบอกว่าดาวโหลดได้ 1-10 Gbps หรือหมายถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10-100 เท่า

เท่าที่มีการทดสอบเทคโนโลยีในปัจจุบัน มีการประเมินว่า 5G มีความเร็วสูงสุดที่ทำได้มากกว่า 4G ประมาณ 20 เท่า แต่ถ้านับความเร็วโดยเฉลี่ยแล้วจะสูงกว่า 10 เท่า

ในระยะ 1 เมตร 5G สามารถรองรับการใช้อินเตอร์เน็ตได้พร้อมกัน 1,000 อุปกรณ์

ความเร็วของ 5G ในการดาวน์โหลดหนัง HD หนึ่งเรื่อง จะใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาที

สรุปแล้ว ในยุค 5G กิจกรรมอินเตอร์เน็ตทุกอย่างที่เราทำกันอยู่ทุกวันนี้น่าจะเร็วขึ้นกว่าเดิม 10-20 เท่า มันสร้างความแตกต่างให้กับกิจกรรมหลายอย่างที่เคยมีปัญหาจากความเร็วของอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน

สมาร์ตโฟนอาจมีการปรับรูปแบบเป็น AR และ VR ข้อมูลที่เคยส่งผ่านกันเป็นภาพและเสียงเป็นหลัก สามารถส่งมาในรูปแบบสามมิติแบบเสมือนจริงได้ง่ายขึ้น แว่นที่สวมเข้าไปทำให้ทุกคนเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงได้ง่ายขึ้น

Cloud Computing ที่มีเคยเป็นปัญหาเรื่องการส่งข้อมูลระหว่างกันได้น้อยและช้าจะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป

ระบบเคเบิลที่เชื่อมต่อด้วยสายอาจมีความจำเป็นน้อยลง ระบบไร้สายจะเข้ามาแทนที่มากขึ้น คงคล้ายกับระบบโทรศัพท์พื้นฐานตามบ้านที่เริ่มหายไป และมีการใช้สมาร์ตโพนมากขึ้น

สัญญาณทีวีแบบเก่าจะมีความสำคัญน้อยลง เพราะ 5G ทำให้ระบบการส่งภาพและเสียงผ่านทางอินเตอร์เน็ตมีประสิทธิภาพดีขึ้น ในระยะยาวการส่งสัญญาณภาพและเสียงผ่านทางอินเตอร์เน็ตอาจมีประสิทธิภาพเหนือกว่าสัญญาณทีวีในปัจจุบัน คงได้เห็นการพลิกโฉมครั้งใหญ่อีกครั้งในวงการสื่อทีวีทั่วโลก

รถไร้คนขับที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้ จะใช้เครือข่าย 5G ในการสื่อสารกับถนนและผู้ร่วมทางซึ่งเป็นรถคันอื่น ช่วยลดปัญหาจราจรติดขัด ลดอุบัติเหตุ ปัญหาที่จอดรถจะกลายเป็นอดีต แม้แต่การเป็นเจ้าของรถของผู้คนก็จะน้อยลง

การซื้อของหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งของใช้ประจำวัน จะซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยสมาร์ตโพนมากขึ้น และคงมีโดรนช่วยขนส่งให้ถึงมือผู้ซื้อในเวลาไม่กี่นาที

Smart City, Smart Home, Smart Factory, Smart Office และอีกสารพัดสมาร์ตจะทำงานได้เต็มรูปแบบจนกลายเป็นเรื่องปกติที่เห็นได้โดยทั่วไป

สิ่งของและอุปกรณ์ต่างๆทุกชนิดสามารถเชื่อมต่อกันด้วยอินเตอร์เน็ต เพราะมีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตมากพอที่จะรองรับได้ และทำงานได้อย่างรวดเร็ว เทียบได้กับระบบเรียลไทม์ แม้จะอยู่ห่างกันไกลก็ควบคุมได้ดีไม่ต่างจากอุปกรณ์ที่เห็นอยู่ตรงหน้า

IoT จะมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด เพราะเรียกได้ว่าเป็นยุคที่มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้อย่างไม่จำกัด ที่เคยมีการคาดการณ์กันว่าอินเตอร์เน็ตจะทำให้ทุกอย่างรอบตัวเรามีการติดตั้งอินเตอร์เน็ต จะเริ่มเป็นจริงในยุค 5G

นับถึงปี 2017 จำนวนอุปกรณ์ IoT ที่ใช้กันทั่วโลกมีอยู่ 8.4 พันล้านชิ้น มีการประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 30 พันล้านภายในปี 2020 และมีมูลค่าทางการตลาดทั่วโลกประมาณ $7.1 ล้านล้าน

เมืองอัจฉริยะมีอุปกรณ์เชื่อมต่อกันเอง และเชื่อมต่อกับผู้คนให้รับรู้ความเคลื่อนไหวสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งเมือง มีระบบที่คอยควบคุมความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชุมชน แก้ปัญหาจราจร รักษาความปลอดภัยจากโจรและการก่อการร้าย ให้ความช่วยเหลือผู้คน ฯลฯ

โรงงานขนาดใหญ่กลายเป็นโรงงานอัจฉริยะใช้หุ่นยนต์ที่ติดต่อสั่งงานกันด้วยอินเตอร์เน็ต ใช้หุ่นยนต์และเครื่องจักรมากขึ้น ใช้คนทำงานน้อยลง

เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในสำนักงานหรือบ้านสามารถสั่งงานได้ทางอินเตอร์เน็ต แม้แต่ตู้เย็นก็มี IoT ที่สามารถรายงานให้รู้ว่าอาหารในตู้เย็นมีอะไรขาดพร่องไปบ้าง และมันสามารถเตือนหรือสั่งซื้อให้เอง

อุปกรณ์สวมใส่ของผู้คนมีอินเตอร์เน็ตรายงานสุขภาพเชื่อมต่อกับระบบประกันสุขภาพ มีรายงานส่งตรงไปให้หมอได้มอร์นิเตอร์ตลอดเวลา

ตั้งแต่ยุคอินเตอร์เน็ต 4G ที่เริ่มมีการใช้เมื่อประมาณสิบปีก่อน ได้ทำให้วิธีการทำธุรกิจหลายสาขาเปลี่ยนไป หรือล่มสลายหายไป

การเข้าสู่ยุค 5G จะทำให้ภาพการล่มสลายของหลายธุรกิจยิ่งชัดเจนมากขึ้น

โลกอินเตอร์เน็ตซึ่งเปรียบได้กับโลกเสมือนจริง ยิ่งจะมีภาพของโลกจริงมากขึ้นในยุค 5G และดูเหมือนว่าจะเป็นโลกที่เหนือจริงมากขึ้นด้วย!!!

http://www.rfwireless-world.com/Terminology/4G-vs-5G-difference-between-4G-and-5G.html

https://thedroidguy.com/2018/05/how-fast-is-5g-vs-4g-1084299

https://economictimes.indiatimes.com/telecom/5g-roll-out-to-usher-in-new-era-of-data-consumption-ericsson/articleshow/64599019.cms

https://www.thebangkokinsight.com/huawei-innovation-day/

https://en.wikipedia.org/wiki/Internet_of_things

https://5g.co.uk/guides/how-fast-is-5g/

 

Leave a Reply