ดาวเทียมรุ่นใหม่เจาะเข้าถึงทุกพื้นที่ที่บนโลก ทะลุทะลวง เมฆหมอก ฝน ความมืด เห็นทุกอย่างแม้อยู่ในห้อง มีตาเอ็กซเรย์เหมือนตาซุปเปอร์แมน

มีหนังฮอลลีวู้ดหลายเรื่อง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการค้นหาคนหรือสิ่งของ หรือการชี้เป้าโจมตีฝ่ายตรงข้ามโดยใช้ดาวเทียม คนดูอาจสงสัยว่ามันทำได้ขนาดนั้นจริงหรือ?

Capella Space ออกมาเปิดเผยว่า ทำได้จริง และสามารถให้บริการกับลูกค้าหน่วยงานรัฐบาลหรือเอกชนทั่วโลก

ดาวเทียมสำรวจพื้นที่ซึ่งเคยใช้กันมานาน แตกต่างกับเทคโนโลยีใหม่ในปัจจุบันของ Capella Space

ที่ผ่านมา ดาวเทียมส่วนใหญ่ มีกล้องที่มีระยะหวังผลเป็นภาพหยาบๆประมาณ 5 เมตร แต่รุ่นใหม่เจาะภาพได้ในระยะ 50 x 50 เซนติเมตร มองเห็นได้แบบสามมิติ

ครึ่งหนึ่งของโลกถูกปกคลุมด้วยสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเห็นภาพ โดยรวมแล้ว 75% ของโลก จะเจอเรื่องเมฆหมอก ช่วงเวลากลางคืน หรือมีอุปสรรคทั้งสองอย่าง บางครั้งก็มีฝนตกหรือพายุ และโลกยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

อุปกรณ์แบบเก่า กลางคืนมองไม่ค่อยเห็นภาพ ทำงานไม่ได้ผลเมื่อเจอเมฆหมอกมาบัง หรือฝน อะไรที่อยู่ข้างใต้อุปสรรคไม่สามารถมองเห็นได้ หาภาพที่เป็นประโยชน์ได้ยาก แต่ในปัจจุบันสามารถมองผ่าน เมฆหมอก ความมืด กำแพง เจาะทะลุผ่านสิ่งขีดขวางเข้าไปดูรายละเอียดของคนหรือสิ่งของที่อยู่ในแต่ละห้องของตึกได้

ดาวเทียมรุ่นใหม่ สามารถตรวจสอบภาพการเคลื่อนไหวทุกพื้นที่บนโลก สามารถตรวจจับพื้นที่เป้าหมายแต่ละแห่งได้เป็นเวลานานๆ

Capella ใช้ระบบ Synthetic Aperture Radar หรือ SAR มีระบบการทำงานคล้ายกับ ปลาโลมา และค้างคาว นำทางโดย Echolocation เป็นการหาตำแหน่งที่อยู่ของวัตถุโดยคิดจากเวลา และทิศทางของการสะท้อนกลับ เช่น เรดาร์ โซนาร์

ดาวเทียมส่งสัญญาณวิทยุ 9.65 GHz ไปยังเป้าหมาย หลังจากนั้นจะรวบรวมและตีความสัญญาณขณะที่สัญญาณตีกลับขึ้นสู่วงโคจรโลก

เนื่องจากดาวเทียมทำการส่งสัญญาณของตัวมันเองออกไปโดยตรง สัญญาณสามารถเจาะทะลุทะลวงผ่านผนังอาคารได้ มองเห็นด้านในได้เหมือนตาเอ็กซเรย์ของซุปเปอร์แมน

ปีหน้า จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีก เพราะจะมีดาวเทียมมากขึ้น จะยิงดาวเทียมขึ้นไปอีก 6 ดวง

ตัวอย่างของภารกิจที่สามารถเอาระบบดาวเทียมที่มองเห็นทุกที่บนโลกได้แบบทะลุทะลวง เช่น

-ทางการทหาร ใช้เฝ้าติดตามกองทัพของศัตรูเพื่อดูความเคลื่อนไหว ดูว่าสนามบินไหนมีกิจกรรมอะไร รู้ว่าเครื่องบินที่ซ่อนอยู่ใต้หลังคาว่ามีกี่ลำ สามารถมองเห็นและระบุตำแหน่งที่อยู่ที่ชัดเจน

-ตรวจสอบเครื่องบินแต่ละลำในสนามบิน ดูรายละเอียดได้ถึง ขนาดของห้องนักบิน ลำตัวเครื่องบิน ปีก และเครื่องยนต์

-ใช้เป็นเครื่องมือสังเกตการณ์สภาพอากาศในพื้นที่ต่างๆ

-ตรวจสอบดูสิ่งมีชีวิต พืช หรือ สิ่งของ ที่อยู่ในที่ต่างๆของโลก ทำให้เราเข้าใจเรื่องธรรมชาติ และสิ่งที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติของโลกใบนี้มากขึ้น มอนิเตอร์สิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง หากมีเรื่องวิกฤติที่ไหน จะได้ตัดสินใจแก้ไขได้ดีขึ้น เมื่อเร็วๆนี้ มีโอกาสใช้ประโยชน์ตรวจพื้นที่ทางตะวันตกของอเมริกาเพื่อดูความเสียหายที่เกิดจากไฟป่า และหาทางป้องกันไม่ให้มีการลุกลามสร้างความเลวร้ายในหลายพื้นที่ สามารถป้องกันหรือเตรียมตัวหนีล่วงหน้าได้

-สามารถใช้ในภารกิจค้นหา และช่วยเหลือชีวิตมนุษย์

-ลูกค้าที่มาใช้บริการ อาจเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการมองทะลุผ่านเมฆหนาทึบ และต้นไม้ในป่าอเมซอน

-สามารถใช้เป็นเครื่องมือติดตามความเปลี่ยนแปลงของป่า ตรวจจับผู้ตัดไม้ทำลายปา

-นักธุรกิจ ทำงานแบบรีโมท ใช้ภาพจากดาวเทียมเป็นเครื่องมือตรวจสอบความคืบหน้าของโครงการต่างๆ มองเห็นความคืบหน้าของการก่อสร้างในพื้นเป้าหมายได้โดยละเอียด รู้ว่าเสร็จไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์

-นักลงทุน ใช้ดูเพื่อตรวจสอบห่วงโซ่ซัพพลายทั่วโลก เช่น การขุดแร่ เหมือง แท่นขุดเจาะน้ำมัน โครงการโซลาร์หรือกังหันลม ฯลฯ รู้ว่าสิ่งที่ลงทุนไปแล้วมีความคืบหน้ามากน้อยแค่ไหน

ระบบนี้สามารถดูภาพความเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละถนนบนโลก แต่อาจติดปัญหาทำไม่ได้ เพราะกฎหมายในสหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศ

ดููจากรายละเอียดที่ทางผู้สร้างชี้แจงมา ทำให้เห็นประโยชน์ด้านบวกมากมาย

แต่ที่จริง มันมีความน่ากลัวสำหรับความเป็นส่วนตัวหลายอย่าง

นับจากนี้ต่อไป จะไม่มีใครรอดสายตาจากผู้มีอำนาจปกครอง และมีอำนาจเงิน

พวกเขาสามารถล่วงล้ำไปทุกที่บนโลก รู้ว่าใครกำลังทำอะไร ซ่อนอยู่ที่ไหนก็หลบไม่ได้!!!

https://futurism.com/new-satellite-buildings-day-night

https://www.capellaspace.com/capella-unveils-worlds…/

Leave a Reply