
DELTA เริ่มต้นธุรกิจในไต้หวันปี 1971 จากการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนโทรทัศน์ และวันนี้เป็นบริษัทชั้นนำของโลกด้าน การออกแบบ และการผลิตชิ้นส่วนอีเล็กทรอนิกส์ มีความเชี่ยวชาญด้าน การจัดการระบบกำลังไฟฟ้า ระบบระบายความร้อน
ในปัจจุบัน เดลต้ากำลังหันทิศทางสู่การสร้างโลกสีเขียว ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย
DELTA
Smarter. Greener. Together.
ความร่วมมือกันเพื่อสร้างโลกที่เขียวขึ้น อัจฉริยะมากขึ้น เป็นเป้าหมายหลักของเดลต้า
วันจันทร์ที่ 5-04-2021 เราได้รับเชิญไปร่วมงานฉลองครบรอบ 50 ปี DELTA และมีโอกาสสัมภาษณ์ คุณแจ็คกี้ จาง ประธานบริหารเดลต้า ประเทศไทย
เดลต้า ในประเทศไทย ไม่ใช่เพียงแค่โรงงานที่ผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายเท่านั้น แต่วันนี้เดลต้าใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาสำหรับภูมิภาคอาเซียนและรวมถึงอินเดีย มีสินค้าเดลต้าหลายรายการที่ออกแบบและพัฒนาในประเทศไทย
เดลต้ามีความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัย หน่วยงานของรัฐ หลายแห่ง การนำทักษะความรู้ความสามารถของคนไทยมาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่วยสร้างความยั่งยืนสำหรับประเทศไทยในระยะยาว
วันนี้โลกกำลังพูดถึง โรงงานอัจฉริยะ อาคารอัจฉริยะ และธุรกิจของเดลต้าประมาณ 90% เป็นสิ่งที่อยู่ในอาคาร
กระแสใหม่การผลิตโลกกำลังเน้นไปที่การพึ่งพาตัวเอง แต่ละประเทศจะพยายามผลิตสินค้าหลากหลายมากขึ้น
โรงงานขนาดเล็ก และขนาดกลาง ต้องหาทางอัพเกรดตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้องเตรียมพร้อมในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามา ซึ่งเดลต้าต้องการช่วยโรงงานขนาดเล็กและกลาง ให้สามารถบรรลุเป้าหมายแนวโน้มใหม่ของโลก
Information and Communication Technology (ICT) หรือ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องจำเป็น โครงสร้างพื้นฐานที่ดีสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์เป็นเรื่องสำคัญ
ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่วมลงนามในข้อตกลงกรุงปารีสเรื่องการลดโลกร้อน ถ้าจะบรรลุเป้าหมายนี้ให้ได้ ต้องมีการเตรียมการล่วงหน้าขนานใหญ่
คุณบรูซ เจิ้ง ผู้ก่อตั้งเดลต้าชาวไต้หวัน เล่าให้ฟังว่า แรงบันดาลใจ ในการสร้างบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเดลต้า เกิดขึ้นตอนที่เขามาประเทศไทยในปี 2004 และได้เยี่ยมชมบ้านของ ศ.ดร.สุนทร บุญญาธิการ ซึ่งเป็นบ้านที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในกรุงเทพฯ มันคือแรงบันดาลใจให้เดลต้าดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด อาคารสีเขียว
ในปัจจุบัน สำนักงานใหญ่ของเดลต้าในประเทศไทย เป็น 1 ใน 27 อาคารสีเขียวของโลก
คุณแจ็กกี้ จาง ประธานบริหารเดลต้าประเทศไทยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับรถอีวีในประเทศไทยไว้น่าสนใจหลายประเด็น
ทิศทางของกระแสอีวีในไทยก็คงไม่แตกต่างจากประเทศอื่น วันนี้ยังมีรถอีวีไม่กี่ร้อยคัน แต่ในอนาคตเมื่อมีนับแสนนับล้านคัน มันต้องมีความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีชาร์จไฟ กระแสไฟที่มีความต้องการมากขึ้น
หากมุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาด ต้องเตรียมการล่วงหน้ากันอีกมาก เวลาที่ไม่มีแดดจากโซลาร์จะเอาไฟฟ้าจากไหน ใช้ระบบกักเก็บพลังงานอะไร
หนทางที่จะทำให้มีการยอมรับยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เรื่องสำคัญอันดับแรก คือ การเปิดรับ ผู้บริโภคในประเทศไทยต้องเห็นความสำคัญของการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ราคาอีวีที่ยังสูงเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญ รัฐบาลไทยควรเข้ามากระตุ้นด้วยการให้อินเซ็นทีฟเหมือนหลายๆประเทศ
ภาษีศุลกากรและค่าใช้จ่ายในการนำเข้ารถอีวีหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ หากมันอยู่ในระดับต่ำก็จะช่วยส่งเสริมอีวีได้มาก
ทิศทางของเดลต้าในวันนี้ วางเป้าหมายไปที่การพัฒนา 3 เรื่องใหญ่ คือ EV, 5G, Data Center
เราได้สอบถาม คุณแจ็กกี้ จาง ถึงเรื่องราคาหุ้น Delta ที่มีความผันผวนอย่างมากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่คุณแจ็กกี้ บอกว่า เขาไม่ควรพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
สำหรับเดลต้าในฐานะผู้บริหาร คุณแจ็กกี้ จาง ปิดท้ายให้ฟังว่า…
“เรากำลังโฟกัสในสิ่งที่ควรทำ คือ สร้างผลงานที่ดีที่สุดสำหรับบริษัท มีผลประกอบการที่ดีที่สุดสำหรับผู้ลงทุน”