ผลการทดลอง Com-COV ของมหาลัย Oxford รายงานว่า ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแบบผสม ช่วยตอบสนองภูมิคุ้มกันได้มากกว่า
บางประเทศในยุโรป เริ่มเสนอทางเลือกให้คนที่เคยฉีดวัคซีนโดสแรกเป็นแอสตร้าเซเนก้า เลือกฉีดวัคซีนโดสที่สองเป็นวัคซีนอื่น เพราะมีการรายงานว่าวัคซีนเชื่อมโยงกับปัญหาลิ่มเลือดที่หายาก
มีผลการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างผู้ที่ฉีดวัคซีนชนิดเดียวกันทั้งสองโดส กับผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าแล้วตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์ ผลปรากฎว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนแบบผสมสองโดส ทำให้มีการรวมตัวกันของวัคซีนสองยี่ห้อ และพวกมันผลิตแอนติบอดีที่มีความเข้มข้นสูงต่อโปรตีนสไปค์ของโคโรนาไวรัส
แมทธิว สเนป ศาสตราจารย์จากอ็อกซ์ฟอร์ดซึ่งอยู่เบื้องหลังการทดลองนี้ ให้ความเห็นว่า การค้นพบนี้สามารถนำไปใช้เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการใช้วัคซีนแบบผสม แต่การศึกษาครั้งนี้ยังไม่ใหญ่พอจนสามารถแนะนำให้มีการเปลี่ยนเป็นการฉีดวัคซีนแบบผสม
สรุปผลการศึกษาครั้งนี้พบว่า….
-ผู้ที่ฉีดไฟเซอร์สองโดส มีการตอบสนองของแอนติบอดีสูงกว่า ผู้ที่ฉีดแอสตร้าเซเนก้าสองโดส
-ผู้ที่ฉีดแอสตร้าเซเนก้าตามด้วยไฟเซอร์ มีการตอบสนองของแอนติบอดีสูงกว่า ผู้ที่ฉีดไฟเซอร์ตามด้วยแอสตร้าเซเนก้า
การศึกษา Com-COV ครั้งนี้ สรุปผลจาก 830 ตัวอย่าง มีการศึกษาผลลัพธ์ของผู้ที่ได้รับวัคซีนสองเข็มห่างกัน 4 สัปดาห์ และ 12 สัปดาห์
มีข้อมูลรายงานว่า แอสตร้าเซเนก้า ตอบสนองทางภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้นด้วยช่วงเวลาที่นานขึ้นระหว่างโดส
UK หรือ สหราชอาณาจักร ปัจจุบันมีผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หนึ่งโดสแล้วมากกว่า 80% และมี 60% ฉีดแล้วสองโดส
แต่ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรในวันนี้ ยังดูไม่ดีนัก สายพันธุ์เดลต้าที่มีต้นกำเนิดจากอินเดียทำให้วัคซีนได้ผลลดลง ล่าสุดวันที่ 28-06-2021 UK มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22,868 คน
หลายประเทศในโลกกำลังดูสหราชอาณาจักรเป็นต้นแบบในการหาทางต่อสู้กับโควิด-19
ในปัจจุบัน วัคซีนโควิด-19 ประเภท mRNA อย่าง ไฟเซอร์, โมเดอร์นา ได้รับการทดสอบว่าได้ผลในการสร้างภูมิคุ้มกันดีกว่าวัคซีนอื่นๆ
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องผลข้างเคียง ทุกยี่ห้อมีข่าวเรื่องการตายหรือการแพ้วัคซีนทั้งนั้น แต่อัตราส่วนที่เกิดขึ้นมีน้อยมากๆ
เมื่อสัปดาห์ก่อน Angela Merkel นายกรัฐมันตรีของเยอรมัน ซึ่งฉีดแอสตร้าเซเนก้าโดสแรกในเดือนเมษายน 2021 ได้อาสาสมัครทดลองฉีดวัคซีนแบบผสม โดยวัคซีนโดสที่สองของเธอเป็น โมเดอร์นา
วัคซีนทุกยี่ห้อที่ผลิตออกมาให้ประชาชนทั่วโลกใช้ในวันนี้ เป็นวัคซีนสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน แต่ละชนิดใช้เวลาผลิตแล้วนำออกมาให้ใช้จริงเพียงปีกว่าเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้ว วัคซีนที่โลกเคยผลิตออกมาใช้ ต้องใช้เวลานานกว่านี้มาก วิจัยทดลองผ่านทุกเฟสกันนาน 4-5 ปี
ผู้ที่ฉีดวัคซีนทุกคนในวันนี้ ถือว่าเป็นการทดลองใช้จริงไปพร้อมๆกัน มีอะไรผิดพลาดหรือไม่ดีก็ค่อยๆแก้ไขต่อไป
วันนี้ยังไม่มีใครรู้จริงเกี่ยวกับวัคซีนแต่ละชนิด มันต้องรอผลในระยะยาว แต่วัคซีนเป็นหนทางหลักที่มนุษย์จะใช้ต่อสู้กับโควิด-19