
นับตั้งแต่ อีลอน มัสก์ ซื้อ Twitter มีเรื่องด้านแย่ๆ เกิดขึ้นกับเขาหลายเรื่อง
วันนี้ อีลอน มัสก์ ไม่ใช่คนที่รวยที่สุดในโลกแล้ว แต่ตกลงมาอยู่อันดับที่สอง หุ้นที่ตกลงต่อเนื่อง ทำให้ความรวยของเขาลดลงไปด้วย
การไล่คนออกจำนวนมากในทวิตเตอร์ ทำให้ อีลอน มัสก์ ดูแย่ในสายตาของคนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนทำงานด้านเทค จากที่เคยเป็น “ฮีโร่” วันนี้ถูกมองว่าเป็น “ผู้ร้าย”
อีลอน มัสก์ เคยบอกว่าจะให้อิสระในการแสดงความคิดเห็นแก่ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องโฆษณาเป็นหลักใหญ่ ทำให้มีผู้โฆษณาหลายรายเริ่มถอนโฆษณาออกจากทวิตเตอร์
ส่วนเรื่องให้อิสระในทวิตเตอร์ กลับมีเรื่องตรงกันข้ามเกิดขึ้นหลายอย่าง
บัญชีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ @ElonJet ถูกแบนเพราะนำข้อมูลการเดินทางของ อีลอน มัสก์ มาเปิดเผย สื่อมวลชนบางรายที่ดูเหมือนไม่ค่อยเป็นมิตรกับเขา ก็ถูกแบนจากทวิตเตอร์โดยไม่มีการแจ้งเหตุผลที่ชัดเจน
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ทำโพลกับผู้ติดตามของเขาว่า เขาควรจะลาออกจากการเป็น CEO ของทวิตเตอร์หรือไม่ ผลปรากฎว่า คนส่วนใหญ่คิดว่า เขาควรลาออก ซึ่ง อีลอน มัสก์ แจ้งว่ากำลังอยู่ระหว่างการสรรหา CEO คนใหม่ให้กับทวิตเตอร์
ข่าวล่าสุดที่ทำให้ดูแย่ไปอีก คือ การแบนไม่ให้ผู้ใช้งาน Twitter แชร์ลิงก์โซเชียลมีเดียของคู่แข่ง คือ Facebook, Instagram, Mastodon, Tribel, Nostr, Post และ Truth Social ของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
ไม่มีคำอธิบายว่า ทำไมถึงแบนเฉพาะ 7 เว็บไซต์ แต่ไม่แบนเว็บไซต์อื่นๆ เช่น Parler, TikTok, LinkedIn, YouTube
สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เนื้อหาที่ถูกห้ามในทวิตเตอร์ มีผู้ใช้งานบางคนเอาไปลงไว้ในแพลตฟอร์มอื่น โดยใช้วิธีแชร์ลิงก์
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีผู้ใช้งานทวิตเตอร์จำนวนมากที่ไม่พอใจ อีลอน มัสก์ หันไปใช้ Mastodon ทำให้แพลตฟอร์มนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทวิตเตอร์ กำลังพยายามหาทางสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการเก็บค่าสมาชิกจากผู้ใช้งานบางส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัญชีที่เป็นองค์กร และมีความพยายามที่จะรักษาผู้ใช้บริการโฆษณาในทวิตเตอร์เอาไว้
อีลอน มัสก์ และบริษัทในเครือ เลิกใช้เฟซบุ๊กมาหลายปีแล้ว การแบน Facebook และ Instagram ในคราวนี้ จะทำให้ความบาดหมางระหว่างเขากับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
ที่จริงเวลาใครใช้ Facebook แล้วมีการแปะลิงก์เชื่อมต่อกับ Social Media อื่น ทางเฟซบุ๊กก็ไม่ค่อยยอมกระจายการเข้าถึงให้กับแพลตฟอร์มอื่นอยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีการเปิดเผยเบื้องหลังให้ใครรู้
แถลงการณ์ของทวิตเตอร์กล่าวว่า….
“เราทราบดีว่าผู้ใช้ของเราหลายคน อาจใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ อย่างไรก็ตาม จากนี้ไป Twitter จะไม่อนุญาตให้มีการโปรโมตแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียบน Twitter โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกต่อไป”
https://japantoday.com/category/tech/lorenz-added-to-list-of-journalists-banned-from-twitter