
เทคโนโลยีทางทหารมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีงบประมาณมหาศาล ช่วยผลักดันขอบเขตสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้
นักเทคโนโลยีที่ต่อต้านการนำ AI ไปใช้ด้านลบ เห็นโครงการ Self-Healing Minefield แล้วรู้สึกขยะแขยงมากๆ!!!
คำว่า Self-Healing แปลความหมายได้ว่า สามารถรักษาตัวเอง เยียวยาตัวเองได้ มักจะถูกใช้เป็นคำด้านบวก เช่น
-“แผลหายเองได้ ร่างกายจะเยียวยาตัวเอง”
-“เวลาจะช่วยเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำของคุณเอง”
แต่นี้เป็น Minefield ทุ่นระเบิดที่ตั้งใจวางไว้ฆ่าคน ทำลายล้างศัตรูฝ่ายตรงข้าม และมันสามารถเยียวยาตัวเองได้
Self-Healing Minefield เวลามันเกิดความเสียหาย มันสามารถเยียวยาตัวเองเพื่อมาฆ่าคนได้อีก!
กองทัพของหลายประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี กำลังพัฒนาเขตทุ่นระเบิดอัจฉริยะ เป็นระเบิดที่มีระบบสื่อสารและมีกลไกการปรับใช้อัตโนมัติเพื่อรักษาประสิทธิภาพของทุ่นระเบิด แม้ว่าทุ่นระเบิดบางส่วนจะถูกกวาดล้าง AI จะช่วยทำให้เขตสังหารยังคงทำงานได้ต่อไป
ทุ่นระเบิดอัจฉริยะจะสื่อสารกันเอง ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในเขตทุ่นระเบิด และตอบสนองโดยการจัดตำแหน่งใหม่ หรือแทนที่ทุ่นระเบิดที่หายไป เพื่อให้มันใจว่ายังมีแนวป้องกันอย่างต่อเนื่อง
ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มีบทบาทสำคัญใน Self-Healing Minefield
ทุ่นระเบิดมีเซ็นเซอร์ติดอยู่ สามารถส่งข้อมูลให้ AI วิเคราะห์สถานะของทุ่นระเบิด และทำการปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม
ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าปัญญาประดิษฐ์ยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวางทุ่นระเบิดด้วยการวางตำแหน่งระเบิดตามปัจจัยต่างๆ เช่น ภูมิประเทศ สภาพอากาศ และรูปแบบการเคลื่อนไหวของศัตรู
ทุ่นระเบิดอัจฉริยะเยียวยาตัวเองได้ ปรับตัวได้ ตอบสนองสภาพแวดล้อมและศัตรูได้มากขึ้น เป็นเรื่องท้าทายสำหรับศัตรูที่จะเจาะเข้ามา
ประสิทธิภาพในการป้องกันของทุ่นระเบิดอัจฉริยะ หมายถึงประสิทธิภาพในการทำลายล้างที่มีมากขึ้น มีคำถามเกี่ยวกับจริยธรรมตามมามากมาย

การใช้ AI เพิ่มศักยภาพในการรบของกองทัพ จะทำให้เกิด Collateral Damage มันเป็นอันตรายโดยไม่ตั้งใจต่อพลเรือน
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีการพัฒนาอาวุธที่มีศักยภาพมากที่สุดในโลก ทุ่นระเบิดอัจฉริยะก็มีต้นแบบมาจากอเมริกา
นอกจากทุ่นระเบิดอัจฉริยะแล้ว AI กำลังช่วยกองทัพสร้างระบบอาวุธอัตโนมัติอีกหลายอย่าง
ในอนาคต หุ่นยนต์ AI จะไปออกรบแทนคน กองทัพของประเทศไหนล้าหลังทางเทคโนโลยี จะต้องเอาชีวิตคนไปแลกกับเครื่องจักร!!!