วันที่ 1-05-2023 สำนักข่าวเทคโนโลยีเกือบทุกแห่ง เสนอข่าวใหญ่เรื่องการลาออกจากกูเกิลของ เจฟฟรีย์ ฮินตัน คนที่ได้ชื่อว่าเป็น The Godfather of Deep Learning และ The Godfather of AI
เหตุผลสำคัญของการลาออกจากกูเกิล เพราะเขาต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ AI ได้อย่างอิสระ สามารถเตือนผู้คนให้ระวังถึงด้านมืดของ AI
เจฟฟรีย์ ฮินตัน เป็นบุคคลสำคัญของโลก AI เขาเป็นต้นตำรับและมีส่วนร่วมในเทคนิคการทำงานของ AI ยุคใหม่หลายเรื่อง ซึ่งรวมถึงการทำงานของ Large Language Model หรือ GPT ซึ่งกำลังเป็นที่กล่าวขวัญกันในวันนี้
Deep Learning ซึ่งเป็นเทคนิคที่ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก และให้คำตอบที่ถูกต้องอย่างเหลือเชื่อ มีต้นกำเนิดจาก เจฟฟรีย์ ฮินตัน
ในปี 2016 ที่ AlphaGo เอาชนะแชมป์หมากล้อมโลกได้ เป็นผลงานของ เจฟฟรีย์ ฮินตัน และลูกศิษย์ และเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญที่ทำให้ AI กลายเป็นกระแสโลกในวันนี้
ปัจจุบัน เจฟฟรีย์ ฮินตัน เป็นอาจารย์และนักวิจัยในแคนาดา และทำงานให้กูเกิลควบคู่ไปด้วยมานานกว่า 10 ปีแล้ว เขามีส่วนสำคัญในผลิตภัณฑ์หลายอย่างของกูเกิล เป็นบุคคลที่ได้รับการนับถือสูงสุดในโลก AI
Generative AI แบบ ChatGPT และ Bard ที่สามารถโต้ตอบคำถามของคนได้เหมือนอย่างกำลังคุยกับคน เป็นเหตุผลใหญ่ทำให้ผู้คนหันมาดูเรื่อง AI อย่างจริงจังอีกครั้ง
มันมีทั้งผลกระทบด้านบวกและลบในเวลาเดียวกัน
งานต่างๆเกือบทุกประเภทที่เคยใช้คนทำงานที่มีความรู้ วันนี้สามารถทดแทนด้วย AI หรือนำมันมาเป็นผู้ช่วยที่ทำให้งานออกมาดีขึ้น
เรื่องคนทำงานที่มีความรู้จำนวนมากจะต้องตกงาน เป็นเรื่องที่เริ่มเกิดขึ้นแล้ว และจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็จะทำให้เกิดงานใหม่ๆอีกมาก
เจฟฟรีย์ ฮินตัน บอกว่า สิ่งที่น่ากังวลเกี่ยวกับ AI คือ มันยากที่จะป้องกันไม่ให้คนเลวเอามันไปใช้กับเรื่องเลวๆ
กองทัพสหรัฐฯและอีกหลายประเทศ กำลังสร้างหุ่นยนต์ที่มีสมองของ AI สามารถใช้มันฆ่าคน
AI สามารถสร้างเรื่องหลอกลวงได้อย่างไม่จำกัดในการปั่นหัวผู้คนในสังคม ต่อไปจะแยกได้ยากว่า อะไรเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องหลอกลวง
อีลอน มัสก์ และนักเทคโนโลยีคนดังของโลกมากกว่า 1,000 คน ร่วมกันลงชื่อแสดงความเห็นให้หยุดพัฒนา AI ที่เหนือกว่า GPT-4 ไว้ก่อน 6 เดือน รอจนกว่าจะมีการกำหนดกฎเกณฑ์ความปลอดภัยที่ชัดเจนก่อน
แต่ เจฟฟรีย์ ฮินตัน ไม่ได้ลงชื่อกับ อีลอน มัสก์ แต่เมื่อลาออกจากกูเกิลแล้ว เขาจะออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ได้อย่างอิสระ
เจฟฟรีย์ ฮินตัน บอกว่า เขากลัวว่าเทคโนโลยีที่เขามีส่วนร่วมในการพัฒนา จะมีการใช้อย่างผิดๆ และอาจทำให้เขาต้องเสียใจกับสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา……